‘หัวเว่ย’ ผงาดเบอร์ 1 โลก ชู '1+8+N' เสริมแกร่งตลาดไทย

‘หัวเว่ย’ เร่งยุทธศาสตร์ ‘เอไอไร้รอยต่อ' เจาะทุกไลฟ์ไตล์ ชูกลยุทธ์ 1+8+N สร้างอีโคซิสเต็มอัจฉริยะ พร้อมปลุกตลาดสมาร์ท ดีไวซ์ ในไทยต่อเนื่อง

ชู “สมาร์ทโฟน” เรือธงสำคัญ ชี้ 'กูเกิล' ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เหตุ ‘หัวเว่ย โมบาย เซอร์วิส’ ตอบโจทย์ได้ทุกแอพที่ทั่วโลกและคนไทยต้องการ ดันยอดไตรมาส 2 หัวเว่ยแซงขึ้นเบอร์ 1 สมาร์ทโฟนโลก

‘อิงมาร์ หวาง’ ผู้อำนวยการ บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดในปีผ่านมาของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ระดับโลกยังเติบโตต่อเนื่องทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน และสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 34%

ตลาดสมาร์ทโฟนหัวเว่ยยังคงรั้งอันดับ 2 ในแง่ส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 17.6% ขณะที่ยอดนำส่งผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงกว่า 240 ล้านเครื่อง และเมื่อเทียบแบบปีต่อปี หัวเว่ยเติบโตสูงถึง 16.8% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นยังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ กลุ่มคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป ยอดนำส่งผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นกว่า 200% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสวมใส่ (wearables) เพิ่มขึ้นกว่า 170% และกลุ่มหูฟังไร้สาย (wireless audio) เติบโตมากกว่า 200%

การเติบโตในแง่ยอดการสั่งซื้อ และนำส่งผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่มสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ของแบรนด์เมื่อรวมกับภาพรวมการเติบโตของ 5จี สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอัจฉริยะ และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือไอโอที (IoT) ที่เพิ่มสูงขึ้น

"เรามองการณ์ไกลถึงทิศทางธุรกิจในอนาคต นำไปสู่การพัฒนากลยุทธ์ 1+8+N ที่จะต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตอบรับเทรนด์ดังกล่าวเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ได้ลื่นไหล ภายในอีโคซิสเต็มอัจฉริยะของตัวเอง"

ชู 1+8+N เขย่าโลกนวัตกรรม

ส่วนตัวเลขและตัวอักษรในกลยุทธ์ 1+8+N สะท้อนถึงการเชื่อมต่อแบบบูรณาการของสมาร์ทดีไวซ์ ภายในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ย เลข 1 หมายถึง สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์หลักที่จะเป็นหัวใจในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของดีไวซ์อื่นๆ ขณะที่ 8 หมายถึง สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ อีก 8 อย่างที่จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ได้แก่ แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ หูฟังไร้สาย แว่นตา ทีวีหรือหน้าจออัจฉริยะ ลำโพง และรถยนต์

ส่วน N หมายถึงไอโอที ส่วนเครื่องหมาย “+” หมายถึง เครือข่ายเชื่อมต่อในบริเวณกว้าง (WAN) และการเชื่อมต่อระยะใกล้ เช่น หัวเว่ย แชร์ และไฮลิงก์ โดยมีเราทเตอร์ ซีพีอี ทีบ็อกซ์ และโมดุล ที่จะผสานเครือข่ายอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยให้สมบูรณ์ ให้ชีวิตเอไอไร้รอยต่อเกิดขึ้นผ่านการใช้งานจริงบนสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

ตามกลยุทธ์ 1+8+N หัวเว่ยทุ่มงบพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เชื่อมต่อและทำงานอย่างบูรณาการสูงกว่า 6 แสนล้านหยวน (หรือราว 2.7 ล้านล้านบาท) ในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นแนวโน้มการเติบโตการใช้งานนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเอไอ มีจำนวนบัญชีผู้ใช้หัวเว่ยไอดี ที่แอคทีฟต่อเดือนกว่า 300 ล้านบัญชี

จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบได้เพิ่มขึ้นกว่า 180 ล้านเครื่อง ผู้ใช้อีโคซิสเต็ม ไฮลิงก์กว่า 50 ล้านราย พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของอีโคซิสเต็มไฮลิงก์เพิ่มกว่า 800 รายทั่วโลก

"นำมาสู่แนวทาง HUAWEI Seamless Smart AI Life หรือ ชีวิตเอไอ ไร้รอยต่อ มุ่งพัฒนาทั้งอีโคซิสเต็มของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และอีโคซิสเต็มของแอพฯ โดยจะถูกบูรณาการเชื่อมกันผ่านเอไอ"

‘หัวเว่ย’ผงาดเบอร์1สมาร์ทโฟนโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน HMS ที่มาแทนบริการกูเกิลในสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยนั้น ปัจจุบันมีแอพใน HMS เพิ่มขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยแทบครบ นั่นทำให้การไม่มีบริการของกูเกิลในอีโคซิสเต็มส์ของหัวเว่ย ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

รายงานจาก Canalys ระบุเร็วๆ นี้ด้วยว่า ปัจจุบันหัวเว่ย สามารถแซงซัมซุงก้าวขึ้นมาเป็นผู้จำหน่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกในไตรมาสสองของปี 2563 หัวเว่ยได้ส่งมอบสมาร์ทโฟนแล้วถึง 55.8 ล้านเครื่องลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ ซัมซุงส่งมอบสมาร์ทโฟนแล้วเพียง 53.7 ล้านเครื่องลดลง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนแบรนด์จีนอย่างหัวเว่ย ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนโลก

นักวิเคราะห์ของ Canalys ชี้ว่า การเป็นผู้นำตลาดสำคัญมากสำหรับหัวเว่ย แต่เป็นเรื่องยากสำหรับการรักษาความเป็นผู้นำในระยะยาว เนื่องจากหลายภูมิภาคสำคัญๆ ของโลกอย่าง ยุโรป กำลังจับตาและระวังการร่วมมือกับหัวเว่ย รวมถึงการมองหาแบรนด์อื่นเพื่อลดความเสี่ยง ตลาดในประเทศจีนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้หัวเว่ยยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด หากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น