PMI ภาคการผลิตจีนออกมาดี

โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,315.74 จุด (-22.61 จุด) Volume 6.7 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,961.91 ลบ. TFEX Net -9,013 สัญญา ตราสารหนี้ +1,060 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 225.92 จุด -0.85% หลังสหรัฐเผยตัวเลข GDP 2/2563 หดตัวรุนแรงสุดในรอบกว่า 70 ปี และปธน.ทรัมป์เสนอเลื่อนการเลือกตั้ง ปธน.ออกไปจากกำหนดเดิม 3 พ.ย. 63

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ -3.3% ปิดที่ 39.92 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการเผย GDP 2/2563 ที่แย่ของสหรัฐ และกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในสหรัฐและทั่วโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

+สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

-ญี่ปุ่นลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้เป็น -4.5% จากเดิมคาดขยายตัว 1.4%

-เยอรมนีเผย GDP หดตัว 10.1% ใน Q2/63 หนักสุดเป็นประวัติการณ์

-สศค.คาด GDP ปี 63 หดตัว -8.5% รับผลกระทบโควิด ก่อนกลับมาฟื้นโต 4-5% ในปีหน้า

+/-สศค.เผยเศรษฐกิจไทย มิ.ย.ยังชะลอตัว แต่บริโภค-ลงทุนเอกชนดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์

+/-ครม.ชุดใหม่ประยุทธ์ 2/2 ถูกนำรายชื่อส่งขึ้นทูลเกล้าฯ เรียบร้อยแล้ว

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 7.73 จุด -0.23%

-ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 57.88 จุด -0.26% เช้าเปิด -113.49 จุด วิตกยอดติดโควิดในญี่ปุ่นพุ่ง

-ทองคำทรงตัวจาก GDP สหรัฐหดตัวสูงสุดในรอบ 70 ปี

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.28 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.36 บาท/US

*จับตา ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ส่วนสหรัฐเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย.  ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ระยะสั้น ตามทิศทางตลาดภูมิภาคหลังสนง.สถิติจีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 จากระดับ 50.9 ในเดือนมิ.ย บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวหลุด 40 ดอลลาร์/บาร์เรล ยังเป็นตัวกดดันตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,306-1,325 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นปัจจัยลบกดดัน

กลุ่มท่องเที่ยว

AOT - ยืดเวลาให้ความช่วยเหลือผู้เช่าและสายการบิน

MINT – ประเทศสเปนเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 ของ COVID-19

กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC GULF BGRIM การใช้ไฟฟ้าของโรงงานลดลงจากผลกระทบของ COVID-19

กลุ่มโรงกลั่น TOP SPRC IRPC BCP  งบ 2Q63 ได้แรงหนุนจากกำไรสต๊อกน้ำมัน แต่ 3Q63 ไม่มีกำไรสต๊อกน้ำมันและค่าการกลั่นทรงตัวในระดับต่ำ

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
• หุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q20 ดี (WICE TASCO CPF PTT TOP SPRC PTTGC)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE SVI HANA DELTA TU TFG)

หุ้นมีข่าว

(-) หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่มีพอร์ตบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ พิโกฯ-นาโนไฟแนนซ์ ป่วนหนัก หลังแบงก์ออมสิน ประกาศลุยตลาดสินเชื่อทั้งหมดนี้ภายใน 6 เดือน คิดดอกเบี้ยถูกกว่าผู้ประกอบการในระบบ 8-10% ด้าน SINGER ยันไม่กระทบ เพราะคิดดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว หรือพอๆ กับออมสิน คือ 16% SAWAD-MTC ยอมรับดอกเบี้ยแพงกว่า แต่สู้ด้วยความคล่องตัว และให้บริการ ด้าน KTC เริ่มลดดอกเบี้ยตามนโยบายแบงก์ชาติ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AOT (Bloomberg Consensus 59.44 บาท)   รอส้มหล่น! เตรียมส่งบริษัทลูก “AOTGA” เสียบแทน THAI ฮุบงานบริการภาคพื้นในสนามบิน พร้อมยันไม่คิดเปิดประมูลใหม่ ถ้ายังไหวให้ THAI ทำต่อ หรือตั้งบริษัทร่วมทุน ขณะที่ล่าสุดบอร์ด AOT ขยายสัญญาคิง เพาเวอร์ อีก 1 ปี 6 เดือนเยียวยาพิษโควิด ชี้แนวโน้มปี 64 เสี่ยงขาดทุน นอกจากนี้คาดเซ็นสัญญา NWR รับงานสร้างรันเวย์ 3 สุวรรณภูมิ ก.ย.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ILM (Bloomberg Consensus - บาท)   ส่ง “ยูนีค” เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ เจาะตลาดคอนโดมิเนียมและบ้าน รับธุรกิจอสังหาฯฟื้นตัวครึ่งปีหลัง และกระตุ้นความต้องการตกแต่งที่อยู่อาศัย เล็งเพิ่มพื้นที่โซน World Materials ทุกสาขา พร้อมเปิดช่องทางบริการออนไลน์สร้างความสะดวกสบายแก่ลูกค้า (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BCPG (Bloomberg Consensus 51.38 บาท) มั่นใจอีบิทด้าปีนี้โตเข้าเป้า 20% จากปีก่อนทำได้ 2.58 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า Nam San 3A และ Nam San 3B ในลาวเพิ่ม เตรียมปิดดีล M&A มากกว่า 1 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่เดินหน้าขยายลงทุนในลาว-ญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์-อินโดนีเซีย-ไทยตามแผน พร้อมตั้งงบ 4-5 หมื่นล้านบาท รองรับขยายลงทุนในช่วง 5 ปี (63-67) (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg Consensus 10.40 บาท) เผยครึ่งปีหลังกลับมาฟื้นตัว หลังกลับมาเปิดการเรียนการสอนปกติในเดือนส.ค.นี้ ภาพรวมทั้งปี 63 เชื่อว่ายังเติบโตจากปีก่อน แต่อาจปรับเป้ารายได้ปีนี้ที่คาดโต 15-20% อีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบลดค่าเทอมช่วยเหลือนักเรียนในไตรมาส 2/63 พร้อมเดินหน้าขยายอาคารใหม่ในโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ธนบุรี คาดว่าจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการในเดือน ส.ค. 64 รองรับนักเรียนใหม่เพิ่มอีก 600 คน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) GLOBAL (Bloomberg Consensus 18.06 บาท)   โชว์ผลงานไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิ 513.07 ล้านบาท มีรายได้ 6,218.41 ล้านบาท ส่วน 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 1,134.36 ล้านบาท มีรายได้ 13,493.46 ล้านบาท จากกำไรขั้นต้น และ EBITDA ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้เจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ฟากโบรกชี้ผ่านจุดต่ำสุด เคาะเป้าหมาย 19.50 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(-) KTC (Bloomberg Consensus 32.52 บาท) ขานรับมาตรการ ธปท. ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต เป็น 16% ต่อปี และสินเชื่อส่วนบุคคลลงเป็น 25% ต่อปี พร้อมผ่อนปรนการชำระขั้นต่ำต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้บริโภค ดีเดย์ 1 สิงหาคมนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SEAFCO (Bloomberg Consensus 7.36 บาท) มั่นใจทิศทางครึ่งปีหลัง 2563 โครงการใหญ่หนุน เตรียมโกยงานใหม่เพิ่มราว 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันตุนแบ็กล็อกในมือกว่า 2,800 ล้านบาท พร้อมการันตีปี 2563 รายได้จะโตตามเป้าหมาย 3,300 ล้านบาท แม้มีสถานการณ์โควิด-19 โบรกคาดปี 2564 ธุรกิจกลับมาพีคสุด (ที่มา ทันหุ้น)

(-) PTTEP (Bloomberg Consensus 97.57) รายงานกำไร 2Q63 ที่ 4.3 พันล้านบาทต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.2 พันล้านบาท เนื่องจากราคาขายปรับตัวลง และปริมาณขายปรับตัวลงด้วย ขณะที่ต้นทุนขายส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ ขณะที่ 3Q63 ลดเป้าปริมาณขายในไตรมาส 3/63 และปี 63 จะอยู่ที่ประมาณ 340,000 และ 355,000 บาร์เรล/วัน เหลือ 3.55 แสนบาร์เรล/วันจากผลโควิดฉุด Q2/63 หดตัว พร้อมประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีแรกหุ้นละ 1.50 บาท ขึ้น XD วันที่ 13 ส.ค.นี้

ความเห็น แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว คาดราคาขายก๊าซฯ 3Q63 อ่อนตัวลงจาก 2Q63 ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ขณะที่ต้นทุนการผลิตยังทรงตัวในระดับสูงที่ 30$/bbl คอยกดดันกำไร