'ทีเส็บ' ผุดโปรเจคแก้เกมโควิด 'ประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า'

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) กล่าวว่า ทีเส็บได้ปรับลดเป้าหมายจำนวนและรายได้ตลาดนักเดินทางกลุ่มจัดประชุม สัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และแสดงสินค้า (MICE) ทั้งตลาดไมซ์ต่างประเทศและในประเทศของปีงบประมาณ 2563 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2562-ก.ย.2563 ลดลงกว่า 60-70% เมื่อเทียบกับเป้าเดิมของปีงบฯ2563 หลังเผชิญวิกฤติโควิด-19

โดยปรับเป้าหมายใหม่ของตลาดไมซ์ต่างชาติปีงบฯ2563 มาอยู่ที่จำนวน 476,800 คน ลดลง 66% จากเป้าเดิม 1,386,000 คน เป้ารายได้ใหม่ 29,820 ล้านบาท ลดลง 72% จากเป้าเดิม 105,600 ล้านบาท

ขณะที่ปีงบฯ2562 มีจำนวนนักเดินทางไมซ์ต่างชาติราว 1.2 ล้านคน สร้างรายได้ 9.3 หมื่นล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของกลุ่มนักเดินทางไมซ์อยู่ในระดับที่สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 74,000 บาทต่อคนต่อทริป

สำหรับจำนวนนักเดินทางไมซ์ต่างชาติสะสมในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบฯ 2563 (ต.ค.2562-มี.ค.2563) อยู่ที่ประมาณ 4.7 แสนคน สร้างรายได้ 2.9 หมื่นล้านบาท และเมื่อเจาะเฉพาะไตรมาสที่ 2 ของปีงบฯ 2563 (ม.ค.-มี.ค.2563) ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก มีนักเดินทางไมซ์ต่างชาติ 1.7 แสนคน ลดลงราว 50% จาก 3.5 แสนคนของไตรมาสเดียวกันปีงบฯที่แล้ว ส่วนรายได้ไมซ์ต่างชาติอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ลดลงมากกว่า 50% จาก 2.6 หมื่นล้านบาทของไตรมาสเดียวกันปีงบฯที่แล้ว

“คาดว่าปีงบฯ2563 ทั้งจำนวนและรายได้ตลาดไมซ์ต่างชาติจะหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง เพราะวิกฤติโควิด-19 กระทบต่อการเดินทางข้ามประเทศ แต่พอสถานการณ์โควิดในไทยเริ่มคลี่คลายดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.อนุมัติในหลักการผ่อนปรนระยะที่ 6 อนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมงานจัดแสดงสินค้า (Exhibition) ในไทย”

ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเห็นการเดินทางเข้ามาในเดือน ก.ย.นี้เพื่อร่วมงานมหกรรมอาหารหรือ THAIFEX- ANUGA ASIA 2020 ที่เลื่อนมาจากเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้แสดงความจำนงประมาณ 600 คน จากเดิมมีชาวต่างชาติสนใจร่วมงานนี้จำนวนมาก แต่พอทราบข้อจำกัดการเดินทางที่รัฐบาลกำหนดว่าไม่สามารถออกนอกเส้นทางได้ ก็สนใจเดินทางมาน้อยลง ต่างจากงาน THAIFEX ปีที่แล้วซึ่งมีชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมงานมากถึง 2.5 หมื่นคน

ส่วนในเดือน ต.ค.นี้จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าราว 1,100 คน เดือน พ.ย.มี 4,000 คน และเดือน ธ.ค.นี้มีอีก 1,000 คน  

นายจิรุตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ที่นักเดินทางไมซ์ฟื้นตัวเฉพาะตลาดงานแสดงสินค้า ยังไม่สามารถเดินทางเข้าไทยมาร่วมงานจัดประชุมสัมมนาและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลกลุ่มใหญ่ได้ จำเป็นต้องรุกตลาดนักเดินทางไมซ์ในประเทศ ด้วยการปรับรูปแบบการจัดงานไมซ์ในวิถีใหม่ (นิวนอร์มอล) ยึดมาตรฐานสุขอนามัย และกระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล

ทีเส็บได้จัดทำโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” สนับสนุนงบประมาณการจัดงานแก่องค์กร บริษัท และผู้ประกอบการไมซ์ที่มีแผนจะจัดประชุม สัมมนา อบรม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ใช้สถานที่ในประเทศ

เงื่อนไขการสนับสนุนแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1. สนับสนุนงบประมาณในรูปแบบบัตรกำนัล (Voucher) ไม่เกิน 15,000 บาทต่อกลุ่ม สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นเวลา 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) และ 2. สนับสนุนงบประมาณในรูปแบบบัตรกำนัล (Voucher) ไม่เกิน 30,000 บาทต่อกลุ่ม สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อยเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ทั้งนี้ สามารถจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตั้งขององค์กรภายในจังหวัดหรือข้ามจังหวัด และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 30 คนต่อกลุ่ม โดยขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ต.ค.2563 และจะต้องยื่นขอรับการสนับสนุนล่วงหน้า 10 วันก่อนเริ่มดำเนินกิจกรรม และจัดกิจกรรมให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธ.ค.2563

อย่างไรก็ตามทีเส็บได้ปรับลดเป้าหมายตลาดไมซ์ในประเทศของปีงบฯ2563 ให้สอดรับกับสถานการณ์จริง โดยวางเป้าใหม่ที่จำนวนคน 9,576,000 คน ลดลง 74% จากเป้าเดิม 36,395,000 คน ส่วนเป้ารายได้ใหม่อยู่ที่ 32,100 ล้านบาท ลดลง 75% เมื่อเทียบกับเป้าเดิม 127,100 ล้านบาท