เลือกเล่นรายตัว

เลือกเล่นรายตัว

คาด SET แกว่งตัว 1,330 – 1,350 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจาก FED

ตลาดหุ้นวานนี้

Set Index อ่อนตัวลง 2.57 จุด (-0.19%) ปิดที่ระดับ 1,338 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ประกอบกับนักลงทุนรอติดตามปัจจัยต่างประเทศ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน , มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงการประชุม FOMC โดยภาวะตลาดใหญ่ส่วนเป็นแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Electronic หลัง DELTA ประกาศกำไร 2Q20 ดีกว่าคาด ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 754 ล้านบาท และ Net Long TFEX 11,633  สัญญา อีกทั้งซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,238 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,330 – 1,350 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจาก FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ 0 – 0.25% และให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบ Covid-19 ประกอบกับแรงซื้อในหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวหรือกลุ่มที่งบ 2Q20 เติบโตซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางดัชนี อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ของสหรัฐที่ยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องนั้นจะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มอาหาร (CPF GFPT TU TFG ASIAN)  และ กลุ่มอิเล็ค (KCE DELTA HANA SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น ( TOP PTTGC SPRC BGRIM CKP CPF TU TASCO STA STGT SPALI AP PRM PTL AJ STARK CBG TQM JMT )

หุ้นแนะนำวันนี้

  • TASCO (ปิด 27 ซื้อ/เป้า สูงสุด IAA Consensus 32) เก็งกำไรงบ 2Q20 พลิกมีกำไร 1,400-1,500 ล้านบาทเทียบกับขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาทใน 1Q20 โดยมีแรงหนุนจากการบันทึกกลับ NRV ทั้งหมดหลังจากราคายางมะตอยกลับมาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 1Q20 และ 3Q20 ยังมี Sentiment บวกจากดีมานด์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากจีนหลังจากปีนี้จีนเกิดน้ำท่วมหนักส่งผลให้รัฐจำเป็นต้องเร่งซ่อมแซมถนนหนทาง (TASCO ส่งออกยางมะตอยไปจีนคิดเป็น 40%)
  • SPRC (ปิด 6.8 ซื้อ/เป้า 8) คาดผลประกอบการ 2Q20 พลิกมีกำไรสุทธิโดดเด่นที่สุดของกลุ่ม เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ 3.5 พันล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 8.3 พันล้านบาทใน 1Q10 จากกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ 4.2 พันล้านบาท, ค่าการกลั่น (GRM) ดีขึ้นจาก 1.3$/bbl ใน 1Q20 เป็น 4$/bbl

บทวิเคราะห์วันนี้

SCC (ปิด 383 ถือ/เป้า 350), HMPRO (ปิด 15.4 ถือ/เป้า 16.7)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) Fed คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ตามคาด และยืนยันจะใช้ทุกเครื่องมือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว : เมื่อคืนที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยืนยันจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมกับใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เฟดมีอยู่เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ อย่างไรก็ตามดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ไม่ได้ตอบรับกับปัจจัยนี้มากนักเนื่องจากส่วนหนึ่งตลาดรับรู้อยู่แล้วประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่รอความชัดเจนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสภาคองเกรสมากกว่า ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนเพิ่มขึ้นเพียง 160 จุด (+0.61%) ปิดที่ระดับ 26,540 จุด
  • (+) น้ำมันดิบฟื้นตัวตอบรับ EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ (+0.6%) ปิดที่ระดับ 41.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาจาก 2 ปัจจัยคือ 1) EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 10.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และนับเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 และ 2) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่า (ราคาน้ำมันดิบและค่าเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ผกผันกัน) โดยล่าสุด Dollar Index ลดลงสู่ระดับ 93.4 อ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 3 ปี
  • (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม วันนี้ PTTEP ประกาศงบ 2Q20, สหรัฐและยูโรโซนประกาศ GDP ไตรมาส 2/20 คาดหดตัวแรง : วันนี้ PTTEP และ GLOBAL จะประกาศงบ 2Q20 คาดผลกำไรออกมาอ่อนแอทั้ง 2 หลักทรัพย์ เบื้องต้นเราคาด PTTEP จะมีกำไรสุทธิประมาณ 5.9 พันล้านบาทลดลง 30%qoq และ 55%yoy ส่วน GLOBAL คาดมีกำไรสุทธิ 423 ล้านบาทลดลง 31%qoq และ 19%yoy  ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตามสหรัฐและกลุ่มประเทศในยูโรโซนประกาศตัวเล GDP 2Q20 (ตัวเลขเบื้องตัน) คาดหดตัวแรง โดย Consensus คาด GDP สหรัฐใน 2Q20 จะหดตัวประมาณ 34% จากที่หดตัว 5% ใน 1Q20 และคาด GDP เยอรมันจะหดตัว 11.3% จาก -2.3% ใน 1Q20