ทอท.ยืดเวลาเรียกเก็บผลตอบแทน "คิงเพาเวอร์" รับกระทบรายได้ปีหน้า

ทอท.ยืดเวลาเรียกเก็บผลตอบแทน "คิงเพาเวอร์" รับกระทบรายได้ปีหน้า

ทอท.รับโควิด -19 กระทบผู้ประกอบการคู่สัญญากว่า 1 พันราย มีรายได้ลดลง บอร์ดไฟเขียวขยายเวลาเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ “คิงเพาเวอร์” 1 ปี 6 เดือน เริ่มนับสัญญาบริหารกิจการ 1 เม.ย.2565 รับกระทบรายได้องค์กรปีหน้า แต่เป็นทางเลือกผลตอบแทนสูงสุด

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  ทอท.กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยประกาศจำกัดการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้การเดินทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศหยุดชะงัก รวมถึงจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการ ณ สนามบินของ ทอท.โดยรวมลดลงอย่างต่อเนื่อง

ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการและสายการบินกว่า 1,000 สัญญา มีรายได้ลดลงใน ขณะที่ต้องรับภาระจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนั้น ทอท.ในฐานะรัฐพาณิชย์ได้มีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการ จากการลดลงของจำนวนผู้โดยสาร และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ

อีกทั้ง ​ล่าสุดเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ยังไม่คลี่คลายลง ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมได้มีมติขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระ ค่าผลประโยชน์ตอบแทนในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการและสายการบินอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ณ สนามบินของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง สำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2563 จาก 6 เดือน เป็น 12 เดือน

 

 

ในส่วนงานประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบกิจการ ณ สนามบินในความรับผิดชอบของ ทอท.ด้วยวิธีประมูลเสนอราคา กำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2563 – 31 มีนาคม 2574 ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของสัญญา จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ร้านค้าทั้งภายในอาคารผู้โดยสารหลัก และภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) นั้น

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลต่อแผนการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ณ ทสภ.ซึ่งเดิมมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 แต่จากสถานการณ์ COVID-19 ได้ส่งผลให้วัสดุอุปกรณ์ในงานก่อสร้างหลายรายการ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่มาทดสอบระบบไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ทำให้ภาพรวมของการทดสอบการเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการ (Operation Readiness and Airport Transfer : ORAT) สำหรับอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. ต้องเลื่อนออกไป โดยคาดว่าจะสามารถทำการทดสอบระบบการปฏิบัติงานต่างๆ ร่วมกันแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565

ทั้งนี้ ทอท.ได้ทำคาดการณ์ปริมาณจราจรทางอากาศในอนาคตของสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. ที่คาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปจนถึงระดับปกติของปี 2562 ในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่ง ทอท. ต้องพิจารณากำหนดการเปิดใช้บริการอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง รวมทั้งต้องพิจารณาค่าใช้จ่าย และค่าเสื่อมราคาที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดใช้งานอาคารดังกล่าว ให้สอดคล้องกับประมาณการรายได้ต่อไป

จากสถานการณ์ข้างต้น จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไม่สามารถดำเนินงานตามแผนภายใต้สัญญาเดิมได้ เนื่องจากแผนดำเนินงานของผู้ประกอบการต้องติดต่อประสานกับ supplier นำเข้าสินค้าวัสดุอุปกรณ์จากต่างประเทศที่มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน สินค้าแบรนด์เนมหลายรายการมีการผลิตและจำหน่ายตามฤดูกาล ความไม่ชัดเจนในการเปิดให้บริการของอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. นั้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการประสานกับ supplier ผู้นำเข้าสินค้าได้

อีกทั้งการเข้าดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารและอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. ผู้ประกอบการอาจเข้าปรับปรุงพื้นที่ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้น ทอท.จึงได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการ เพื่อกำหนดวันเริ่มต้นอายุสัญญาให้สอดคล้องกับการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ณ ทสภ. คือในเดือนเมษายน 2565

ในส่วนของการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำนั้น นอกจากผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้การเดินทางลดลงแล้ว ประกอบกับประเทศไทยได้มีการจำกัดการเปิดน่านฟ้าเป็นการทั่วไป จึงทำให้ท่าอากาศยานของ ทอท. ไม่สามารถมีผู้โดยสารมาใช้บริการได้ตามความคาดหมาย ทอท. จึงยังคงผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing per Head) ตามที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เสนอมาในการประมูล และปรับขึ้นตามสัญญาเดิมหลังจากมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้นสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2565 โดยค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำโดยรวมจะแปรผันตามจำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ ทอท. พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าเป็นทางเลือกที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนกับ ทอท. สูงที่สุด

นายนิตินัย ยังกล่าวด้วยว่า จากมาตรการที่ ทอท.ขยายการยกเว้นเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจากคิงเพาเวอร์ ไปเริ่มต้นเก็บในวันที่ 1 เมษายน 2565 จากเดิมที่จะต้องเรียกเก็บในช่วงปี 2564 แน่นอนว่าจะเป็นผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของ ทอท.ในปีหน้า แต่หาก ทอท.ยังคงยืนยันจัดเก็บผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำตามที่คิงเพาเวอร์เสนอมานั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เอกชนยกเลิกสัญญา และ ทอท.จะต้องเปิดประมูลใหม่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่จะได้รับ อีกทั้งผลกระทบใหญ่คือการบริหารจัดการพื้นที่ การให้บริการที่ไม่ต่อเนื่อง