'ราคาทอง' ส่อทะลุ 3,500 ดอลลาร์ ใน 2 ปี

ราคาทองคำพุ่งแรงต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันจันทร์ (27 ก.ค.) ท่ามกลางความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน

แบร์รี ดอว์ส ประธานบริหารบริษัทมาร์ตินเพลส ซีเคียวริตีส์ เผยกับรายการ “สตรีท ไซน์ส เอเชีย” ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า การที่ราคาทองคำพุ่งเกินระดับสูงสุดรอบก่อนที่ 1,923 ดอลลาร์ต่อออนซ์มาได้ ชี้ให้เห็นว่าตลาดกำลังแข็งแกร่งมากๆ เขาเชื่อว่า ราคาจะไปถึง 3,500 ดอลลาร์ภายใน 2 ปี

แกร์ธ เบรกแมน จากบีเอ็นพี พาริบาส์ เวลธ์เมเนจเมนท์ หัวหน้าฝ่ายบริการลงทุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดว่า ราคาทองคำจะไปนิ่งที่ราว 2,000 ดอลลาร์ ก่อนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

“เรายังไม่เห็นว่าในระยะสั้นจะมีตัวเร่งมาหยุดยั้งราคาทองไม่ให้วิ่งต่อได้ มีแต่ปัจจัยที่จะหนุนให้ทองคำทำนิวไฮรอบใหม่”

เจิร์ก คีเนอร์ กรรมการผู้จัดการสวิสเอเชีย แคปิตอล ก็มองว่าทองคำกำลังพุ่งไม่หยุดเช่นเดียวกัน หากวิเคราะห์ในเชิงเทคนิคเบื้องต้นราคาจะไปอยู่ที่ 2,834 ดอลลาร์ ซึ่งอาจทะลุเป้าหมายนี้ได้ในเวลาค่อนข้างเร็ว

“ส่วนเป้าหมายระยะยาวราคาจะสูงกว่านี้มาก” นักวิเคราะห์รายนี้ชี้ว่า ราคาทองคำสูงกว่าจุดต่ำสุด 7 หรือ 8 เท่า

คีเนอร์กล่าวด้วยว่า ทองคำให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ามากในรอบ 12 เดือนข้างหน้าเมื่อเทียบกับพันธบัตรสหรัฐที่ให้ผลตอบแทนต่ำ

สอดคล้องกับ เดวิด กอด์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่การลงทุนเอเชีย บริษัทพิคเท็ตเวลธ์เมเนจเมนท์ ที่มองว่า ทองคำยังควรค่าสำหรับการถือครอง

“เหตุผลสำคัญคืออัตราดอกเบี้ยต่ำ และส่อเค้าว่าจะต่ำต่อไป ไม่ใช่แค่ในระยะยาวแต่ต่อเนื่องถึงระยะกลางและระยะยาว การถือครองทองคำต่อก็สมเหตุสมผล”

ดอว์ส จากมาร์ตินเพลส ซีเคียวริตีส์ ชี้ว่า ทองคำปริมาณมากถูกเอเชียและตะวันออกกลางดูดซับไป ชาติตะวันตกซื้อไปแต่น้อยจึงต้องสร้างสถานะของตนเองเสียใหม่ ซึ่งวิธีเดียวที่ตะวันตกกำลังทำคือผลักดันราคาให้สูงขึ้น

ส่วนปัจจัยที่ดันราคาทองคำมีทั้งสกุลเงินและชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือโควิด-19

นอกจากนี้ความไม่แน่นอนเรื่องโควิด ผสมโรงกับความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ ทำให้ปีนี้ราคาทองขึ้นไปแล้วเกือบ 30% เมื่อวันอังคารทำสถิติใหม่ที่ 1,981.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในตลาดเอเชีย ก่อนจะอ่อนตัวลงมาเล็กน้อย

นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่า ราคาจะทะลุ 2,000 ดอลลาร์เร็วสุดไม่เกินสัปดาห์นี้

ด้านคณะกรรมการกำกับดูแลและธนาคารใหญ่ กำลังเร่งควบคุมการซื้อขายทองคำในประเทศ เพื่อลดการเก็งกำไร ที่บางคนเกรงว่าจะซ้ำรอยความผิดพลาดจากการเก็งกำไรน้ำมันก่อนหน้านี้

 ไอซีบีซี ธนาคารใหญ่สุดของจีน แถลงวานนี้ว่า ห้ามไม่ให้ลูกค้าเปิดการลงทุนใหม่ซื้อขายแพลทินัม พัลลาเดียม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับทองคำในระยะสั้น ตั้งแต่วันศุกร์ (31 ก.ค.) นี้ เพื่อรับมือกับความผันผวนอย่างรุนแรงของราคา และจำเป็นต้องควบคุมความเสี่ยง

ธนาคารเกษตรจีนเผยว่า เพิ่งระงับการทำธุรกิจใหม่เกี่ยวข้องกับทองคำ ขณะที่แบงก์ออฟไชนา กล่าวว่า ระงับการเปิดบัญชีใหม่ซื้อขายแพลตทินัมและพัลลาเดียมแล้ว

เมื่อวันอังคาร (28 ก.ค.) ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้แถลงว่า การถือครองทองคำและเงินมีสูง หากจำเป็นตลาดจะใช้มาตรการควบคุมความเสี่ยงเพื่อปกป้องนักลงทุน