เบรก 'อาชีวะ' ชนม็อบนักศึกษา เตือนรัฐบาลอย่าประเมินต่ำ จับตาจัดตั้งม็อบชนม็อบ

“3 พระจอมเกล้าฯ”ร่วมปลดแอก

สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆ จากกลุ่มแนวร่วมเยาวชนปลดแอก นัดชุมนุมใหญ่ประท้วงรัฐบาลนั้น ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ค KMITL Political โพสต์ความระบุว่า เตรียมตัวพบกับ ม็อบครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเรา เครือ 3 พระจอมกับ #สามพระจอมจะยอมได้ไง ม็อบ 3k ที่จะมีทีมเหย้า ทีมเยือน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด ใกล้พระจอมไหน ก็ร่วมชุมนุมได้ เสมือนดั่งน้องพี่ การจัดม็อบในครั้งนี้ จะมีการ“ส่งมอบธงสัตยา” ไปเรื่อยๆ อันเป็นสัญลักษณ์ของการฝากไม้ต่อ ให้ไปจัดในอีกพระจอมที่เหลือ

วันที่ 30 กรกฎาคมนี้ เริ่มปักธงสัตยา ที่แรกที่ พระจอมเกล้า พระนครเหนือ แล้วธงสัตยาจะเวียนต่อไปในที่ใดนั้น ติดตามชมตอนจบกิจกรรม ครั้งแรก ที่แกนนำแต่ละพระจอม จะ on tour ไปให้ครบสามพระจอม แล้วเจอกัน

นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา เคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-คนป. ได้โพสต์เฟซบุ๊คระบุ Coming Soon สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย - Student Union of Thailand X เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมระบุข้อความว่า 10 year we wasted, 10 year we want. วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 17.00 น. ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก

ฝ่ายการเมืองห่วงเผชิญหน้า

ขณะที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการชุมนุมของเยาวชนว่า ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นและเห็นต่างได้ วันนี้ยังยืนยันว่า ความเหมาะสมในการขับเคลื่อนประเทศ ต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก เยาวชน ต้องการความเป็นเอกภาพ เพราะต้องการเชิญชวนคนมาลงทุน มาท่องเที่ยว มาใช้เงินในประเทศ เขาไม่กังวลเรื่องโควิด แต่ถ้ามีความกังวลเรื่องทางการเมือง จะทำให้แผนที่วางไว้เสียหาย จึงอยากให้น้องๆ ทุกคน มองถึงประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์หรือความคิดของตนเองที่มี มั่นใจว่าถ้าหากเรารวมกัน จะสามารถนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ อย่าให้เราต้องมาทำร้ายกันเอง

ฝ่ายค้านติงรัฐบาลอย่าประเมินต่ำ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวพรรคเพื่อไทย เห็นว่ากรณีม็อบเยาวชนเริ่มแผ่ขยายวงกว้างออกไปแทบทุกจังหวัด ขอเตือนว่ารัฐบาลอย่าประมาท ประเมินสถานการณ์ต่ำเตี้ย หรือใช้มาตรการคุกคามระงับยับยั้งขัดขวางการชุมนุม จนเป็นเหตุให้ลุกลามขยายวงกว้างจนยากจะควบคุมดูแล

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ มองว่าการชุมนุมที่ขยายตัวออกไปสามารถเรียกได้ว่า ม็อบจุดติดแล้ว และกำลังมีบางฝ่ายกำลังหาจุดอ่อนการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำประเด็นการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของการชุมนุมของนักศึกษามาทุกยุคทุกสมัย

“ขณะเดียวกัน เริ่มมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาอาชีวะ ภายใต้ชื่อกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ รวมพลังปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดตั้งม็อบชนม็อบเหมือนในอดีต จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวล หากมีบุคคลบางกลุ่มหรือบางฝ่าย ยังคิดใช้วิธีการเดิมๆ จัดตั้งกลุ่มนักศึกษาเพื่อให้ปะทะกัน

 จึงอยากเรียกร้องมายังกลุ่มนักศึกษาให้หลีกเลี่ยงประเด็นการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงในการชุมนุม และผู้มีอำนาจบางกลุ่มหยุดใช้วิธีสร้างสถานการณ์รูปแบบเดิมๆ จัดตั้งมวลชนขึ้นมาเคลื่อนไหวในลักษณะม็อบชนม็อบ จนเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เพื่อนำไปสู่ข้ออ้างรัฐประหารอีกครั้ง

เตือน“เยาวชน-จนท.”ระมัดระวัง

เช่นเดียวกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊คไลฟ์ PEACETALK ระบุว่า วันที่ 30 ก.ค.นี้ กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ นัดชุมนุมปกป้องสถาบันต้านเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลาบ่ายสองโมง ส่วนเยาวชนปลดแอกไปชุมนุมที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นคำตอบได้ว่า ตนพูดทำไม สถานการณ์อย่างนี้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้

ทั้งนี้ประธาน นปช.เสนอแนะว่า การจัดการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษาควรประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐ มีการตั้งจุดตรวจร่วมกัน ตั้งหน่วยการ์ดรักษาความปลอดภัย หากไม่มีการ์ดแล้ว สถานการณ์จะรวดเร็วมาก ซึ่งแกนนำนักศึกษาก็รู้และเริ่มเห็นปรากฏการณ์นี้แล้ว อีกอย่าง ทั้งสองฝ่ายต้องระมัดระวัง เพราะความเห็นที่แตกต่างต้องไม่จบลงที่ทำร้ายกัน ต้องไม่ใช้กำลังมาเผชิญหน้ากัน 

ขณะที่หน้าที่ของฝ่ายรัฐต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการปะทะกัน ผมเชื่อว่าสุดท้ายจะมีโรคแทรกซ้อนมากมาย ยากจะเอาอยู่กับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้าทุกคนมองไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นจริง