TPIPP จ่อขายหุ้นกู้มูลค่า 4 พันลบ. ชูดบ.3.90% ต่อปี

TPIPP จ่อขายหุ้นกู้มูลค่า 4 พันลบ. ชูดบ.3.90% ต่อปี

"ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์" เตรียมเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี อายุ 3 ปี 11 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เตรียมเสนอขายวันที่ 14 และ 17-18 ส.ค.นี้

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2563 อายุ 3 ปี 11 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 3.90% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยมีวงเงินของหุ้นกู้ที่เสนอขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,000,000 หน่วย ราคาที่เสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้ที่เสนอขายจำนวนไม่เกิน 3,000,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมอีกจำนวนไม่เกิน 1,000,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยมีมูลค่าจองซื้อหุ้นกู้ขั้นต่ำ 100 หน่วย หรือ 100,000 บาท และเพิ่มขึ้นทวีคูณครั้งละ 100 หน่วย และมีระยะเวลาการจองซื้อและชำระค่าจองซื้อในวันที่ 14 และ 17-18 สิงหาคม นี้

ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่เสนอขายได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2563 อยู่ที่ระดับ BBB+ แนวโน้มความน่าเชื่อถือคงที่ (Stable)

นายภัคพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ของบริษัทสามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านผู้จัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 9 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ส่วนด้านผลการดำเนินงาน TPIPP ในไตรมาส 1/2563 มีรายได้ 2,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.33% ที่มีรายได้ 2,430 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 967 ล้านบาท ซึ่งหากไม่นับรวมกับผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯ จะมีผลกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 974 ล้านบาท 

"บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนซื้อเครื่องจักรหม้อต้มไอน้ำ (Boilers) เครื่องคัดแยกและแปรรูปเชื้อเพลิงขยะ ห้องเก็บเชื้อเพลิงขยะ ระบบสายพานลำเลียง และเครื่องจักรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโรงไฟฟ้า/ขยายกำลังการผลิตเชื้อเพลิงขยะ ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ และพัฒนาโครงการพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (SEZ) ตามนโยบายความมั่นคงของประเทศ ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 พฤษภคม 2562 และมติ ครม. วันที่ 21 มกราคม 2563 เห็นชอบตามแผนพัฒนาเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจะนะ จังหวัดสงขลา ตามมติคณะรัฐมนตรีซึ่งมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2562"