สทชน.เร่งแผนรับฝนหลังก.ค. ดึงน้ำสะสมตามแผนน้ำอีอีซี

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)เปิดเผยว่าแผนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากในช่วงฤดูฝนปีนี้ รวมทั้งการแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ และใช้ในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติงบกลางเพื่อดำเนินการ 506.67 ล้านบาท

เป็นการเตรียมความพร้อมการเร่งระบายน้ำหลากในช่วงฤดูฝนในพื้นที่กว่า 30 จังหวัด จำนวน215แห่งดำเนินการโดยกรมชลประทาน รวมทั้งรองรับความต้องการใช้น้ำของภาคการเกษตรในพื้นที่เนื่องจากในปัจจุบันคลองมีสภาพตื้นเขิน และระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ไม่เพียงพอต่อการทำเกษตรกรรมโดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.ค.2563ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ไว้ว่า จากนี้ไปจนถึงกลางเดือนก.ค.2563ฝนจะทิ้งช่วง จากนั้นฝนจะเริ่มตกมากขึ้นและมีพายุพัดผ่านประเทศไทยประมาณ1-2ลูก อาจจะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่

ทั้งนี้ งบกลางดังกล่าว ยังจะนำมาใช้ในการดำเนินโครงการระบบสูบผันน้ำคลองสะพาน-อ่างประแสร์ ของกรมชลประทานตามที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้เร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี2563จากเดิมจะต้องที่กำหนดแล้วเสร็จในปี2565เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำในการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร อุปโภคบริโภค บรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในภาคตะวันออก

โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้วยการเร่งการสูบน้ำกลับเข้าอ่างเก็บน้ำให้ได้มากที่สุดอีกทั้ง สทนช. มีความจำเป็นที่จะต้องขอรับงบประมาณสนับสนุนเร่งด่วน เพื่อนำมาใช้ในแผนงานทำแบบจำลองกายภาพลุ่มน้ำ17ลุ่มน้ำ สำหรับใช้ในการสร้างความเข้าใจในเรื่องแผนแม่บทและการบริหารจัดการน้ำได้ง่ายขึ้น ตามที่ พลเอก ประวิตร ได้สั่งการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สทนช. ได้ดำเนินการเสร็จไปแล้ว5ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำสะแกกรัง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำป่าสัก และลุ่มน้ำมูล