จาก 'คิงอาร์เธอร์' ถึง 'Cursed'… มนตราต้องสาป

แม้ว่านักประวัติศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี พยายามขุดทุกอย่างที่เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการมีอยู่ของกษัตริย์ในตำนานผู้ไร้ร่องรอย เพื่อสืบซากหาหลักฐานยืนยันความเชื่อ ทว่าทุกวันนี้ก็ยังไม่พบหลักฐานที่รองรับ ชาวอังกฤษโดยเฉพาะชาวเวลช์ คงอยากให้อาร์เธอร์มีจริง แต่ก็คงรู้อยู่ในใจว่า พ่อมดเมอร์ลินน่ะ...ไม่มี

      พ่อมดเมอร์ลิน ใน Cursed (ภาพ Netflix)

แม่มดที่ถูกเผาทั้งเป็นในยุคกลางก็ไม่มี หมายถึงไม่มีแม่มดจริง ๆ แต่คนถูกจับมาเผาจริง ถูกฆ่า ถูกสำเร็จโทษว่าเป็นแม่มดและพวกนอกรีต ยุคกลางในยุโรปจึงเป็น “ยุคมืด” อย่างชื่อที่ตั้งไว้จริง ๆ ประชาชนอดอยาก แร้นแค้น ถูกผู้ปกครองกดขี่ รีดภาษี ผลผลิตเพาะปลูกไม่ได้เพราะสภาพดินฟ้าอากาศแห้งแล้ง แปรปรวน เมื่อไม่มีผลผลิตจะเอาอะไรไปขายมาจ่ายภาษี ประวัติศาสตร์ของแท้คือพวกเจ้าเมืองก็ต้องหาคนผิดใช่มั้ย การโทษคนอื่นว่าผิดก็ทำให้เรื่องง่ายขึ้น พวกแม่มดและนอกรีตนี่แหละจึงตกเป็นจำเลยของสังคม เรื่องของแม่มดจึงเกิดขึ้นจากสภาพดินฟ้าอากาศ ถ้าเป็นยุคนี้ก็เรียกว่า Climate Change ภูมิอากาศกำหนดวิถีชีวิตมนุษย์

          

       อาร์เธอร์โฉมใหม่มีผิวสี

เรื่องของอาร์เธอร์ เกิดขึ้นในยุคกลาง (ศตวรรษที่ 4-15) หลังอาณาจักรโรมันล่มสลาย สืบค้นไปมาอาร์เธอร์เป็นชาวเวลช์ มีชีวิตสมัยศตวรรษที่ 5-6 เป็นกษัตริย์ผู้นำที่มาช่วยขับไล่พวกแซกซอนออกจากเกาะอังกฤษ มีหลายเรื่องเล่ามาจากนิทานพื้นบ้าน จากบทกวี  เล่ากันปากต่อปากมาเรื่อยมาจนถึงศตวรรษที่ 12 ก็มีนักเขียนประวัติศาสตร์จับมารวบตึงเป็นเรื่องราวของกษัตริย์ในตำนาน เวลาผ่านไปเรื่องก็ขยายออกไปอีก ราวต้นศตวรรษที่ 20 ก็มีนักเขียนนำมาต่อยอดขยายความเรื่องราวของอาร์เธอร์ ออกไปอีกหลายเวอร์ชั่น มีดาบศักดิ์สิทธิ์ Excalibur พ่อมดเมอร์ลิน อัศวินแลนเซลอต มีบางเล่มที่เขียนว่า Lady of the Lake เป็นคนนำดาบศักดิ์สิทธิ์มา อาร์เธอร์เดิมเป็นลูกกษัตริย์แล้วถูกลุงยึดอำนาจ ต้องจากบ้านเกิดพเนจร จนเจอเมอร์ลิน ดาบศักดิ์สิทธิ์ และใครต่อใครที่ช่วยกอบกู้บัลลังก์กษัตริย์กลับคืนมา

         

กษัตริย์อาร์เธอร์กับอัศวินโต๊ะกลม จึงมีหลายเวอร์ชั่นบนแผ่นฟิล์มและในหนังทีวี มีปราสาทคาเมล็อต (Camelot) และเซอร์ลานเซลอต (Lancelot) อัศวินคู่ใจของอาร์เธอร์ จนคนอังกฤษรู้จักและจำได้ว่า เขาคือกษัตริย์ผู้ผดุงความยุติธรรม สมัยนั้นยิ่งต้องการฮีโร่ด้วย แล้วถ้ามีพ่อมด เวทย์มนตร์ มีอัศวินผู้กล้า... ก็สนุกใช่มั้ย แต่อาร์เธอร์เวอร์ชั่นล่าสุดจากค่าย Netflix อาจทำให้หลายคนที่ฝังใจกับกษัตริย์หนุ่มรูปงาม แข็งแกร่ง ดีเลิศ เปลี่ยนไปพลัน เมื่อผู้ดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ออกจากกองหิน ไม่ใช่อาร์เธอร์ หากเป็นสตรี

Netflix นำเสนอ Cursed ซีรีส์เรื่องใหม่ซีซั่นแรก 10 ตอนจบ สตรีมมิ่งกันไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องราวของกษัตริย์อาร์เธอร์ (ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก) ชมแล้วก็สนุกตื่นเต้น มีลุ้น มีเชียร์ และใจระทึกกับการแปรโฉมตำนานคิงอาร์เธอร์ ในรูปแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เนื่องจากหนังเรื่องอาร์เธอร์ที่ใครต่อใครทำกันมาหลายสิบปี ไม่มีคนที่มาดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้หญิง

Cursed นำแสดงโดย Katerine Langford สาวตาโตร่างใหญ่จากเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย รับบท นีมุย (Nimue) ที่เป็นผู้ถือดาบศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้ดึงจากกองหินแต่รับมาจากแม่ เพื่อนำไปมอบให้เมอร์ลิน ส่วนอาร์เธอร์เวอร์ชั่นนี้มีผิวสี หล่อเข้ม รับบทโดย Devon Terrell เคยรับบทเด่นเป็น Barry ในหนังกึ่งชีวประวัติของประธานาธิบดี บารัก โอบามา สมัยเรียนมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย

        นีมุย ผู้ครอบครองดาบศักดิ์สิทธิ์  

อาร์เธอร์ผิวสีเรื่องนี้ตกอับ เป็นทหารรับจ้าง หล่อก็หล่อดีนะ แต่ทำไมเขียนบทให้คนดูรู้สึกตกอับไปด้วย เมื่ออาร์เธอร์ขโมยดาบของนีมุย หวังจะไปลงสนามประลองดาบ แล้วก็ถูกจับได้ น่าอายเป็นยิ่งนัก อาร์เธอร์เปลี่ยนสีผิวแล้วยังขี้ขโมย โกหก ไร้ศักดิ์ศรี ใครที่ยังฝังใจกับคิงอาร์เธอร์ต้องปรับใจ 360 องศา...

แต่เรื่องราวก็ค่อย ๆ คลี่คลาย นีมุย เธอเป็นภูติมีเวทย์มนตร์ และจะเป็น Lady of the Lake จะมาช่วยกอบกู้อะไรนั้นต้องติดตามตอนต่อไป