ยื่นศาล ระงับถอนหมายจับ 'บอส อยู่วิทยา'

ยื่นศาล ระงับถอนหมายจับ 'บอส อยู่วิทยา'

องค์กรปชช.-วิชาการ-การเมือง รุมจี้ “อสส.-ตร." แจงเหตุผล สน.ทองหล่อ อ้างกลัวผิด ม.157 ละเว้นหน้าที่ เตรียมถอนหมายจับ 29 ก.ค.

สน.ทองหล่อ อ้างเกรงผิด ม.157 เตรียมถอนหมายจับจากทางศาลคดี “บอส อยู่วิทยา” 29 ก.ค.ทุกระบบ ขณะที่ทุกภาคส่วนในสังคมเรียกร้อง อสส.-ตร.ชี้แจงเหตุผลสั่งไม่ฟ้องคดี "ศรีสุวรรณ จ่อร้อง “ศาลยุติธรรม” ระงับการเพิกถอนหมายจับ มูลนิธิเมาไม่ขับ” ยื่นหนังสือชี้แจง ทนายอานนท์งัดผลตรวจ รพ.รามาฯ หลักฐานเสพโคเคนหาย

จากกรณีสำนักอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา หลังขับรถหรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสิรฐ ผบ.หมู่งาน ป.สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ต่อมานายวรยุทธ ได้หลบหนีคดี 8 ปี กระทั่งปรากฏเอกสารจากสน.ทองหล่อว่า คดีนี้จบลงเนื่องจากอัยการไม่ส่งฟ้องผู้ใด ทำให้นายวรยุทธ อยู่วิทยา สามารถกลับประเทศไทยได้

ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้(25 ก.ค.) พ.ต.ท.ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตามขั้นตอนทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการถอนหมายจับ บอส อยู่วิทยา ในระบบประกาศสืบจับทั้งในระบบตำรวจสากล(อินเทอร์โพล) สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติหมดแล้ว 

แต่สำหรับการยื่นถอนหมายจับจากทางศาลนั้น จะต้องรอศาลเปิดทำการในวันพุธ ที่ 29 ก.ค.นี้ จึงจะทำหนังสือไปแจ้งให้ทราบตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งเมื่อมีคำสั่งว่าอัยการสูงสุดไม่ยื่นฟ้องแล้ว ตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่คือการทำเรื่องถอนหมายจับ หากไม่ทำก็จะมีความผิดตามมาตรา 157 ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้

       มีรายงานว่าก่อนหน้านี้ ทนายความของนายวรยุทธ และทนายความทางด้านของผู้เสียชีวิต ได้ทำบันทึกตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายกันมาตลอด ตั้งแต่เกิดเรื่องในทุกขั้นตอนทางกฎหมาย การชดใช้ดังกล่าวนี้เป็นที่พอใจแก่ทางฝั่งครอบครัวคนใกล้ชิดของผู้เสียชีวิต ทำให้ไม่ติดใจในทางแพ่งและในทางอาญาอีกต่อไป ซึ่งความพอใจตรงนี่ได้กลายเป็นเป็นเหตุผลประกอบสำคัญในการพิจารณาที่ทำให้อัยการไม่ฟ้องทุกข้อกล่าวหาในทางคดีนี้ ซึ่งเอกสารบันทึกดังกล่าว ยังไม่มีถูกเผยแพร่ว่ามีการลงนามระหว่างบุคคลใดกับบุคคลใดบ้าง

“ศรีสุวรรณ”ร้องศาล-ป.ป.ช.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า ถึงแม้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ ของนายวรยุทธ จะหมดอายุความไปเกือบหมดแล้ว แต่ข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291” มีอายุความถึง 15 ปี โดยจะขาดอายุความในปี 2570 ซึ่งยังมีระยะเวลาอีกหลายปีที่ตำรวจจะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำคนผิดมาลงโทษได้ แม้พนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในข้อหาดังกล่าวแล้ว แต่มิได้หมายความว่ามูลคดีจะจบลงไปโดยปริยายหาได้ไม่

ทั้งนี้ การเพิกถอนหมายจับ เป็นอำนาจหน้าที่และดุลยพินิจของศาลที่อนุมัติการออกหมายจับดังกล่าว นั่นก็คือ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ได้อนุมัติหมายจับ 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร ทำให้นายวรยุทธมีสถานะเป็น “ผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาล” ด้วย

คดีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นคดีอาญาของแผ่นดิน การอนุมัติการเพิกถอนหมายจับของศาลนั้น เป็นดุลยพินิจของศาลอาญากรุงเทพใต้ ดังนั้นเพื่อความยุติธรรมและเพื่อรักษาบรรทัดฐานทางกฎหมาย สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงใคร่ขอเรียกร้องไปยังศาลยุติธรรมดังกล่าว เพื่อขอให้ระงับการอนุมัติให้อัยการเพิกถอนหมายจับดังกล่าวไว้ จนกว่าคดีนี้จะหมดอายุความในอีก 7 ปีข้างหน้า เพื่อรอเวลาว่า ภายใต้อายุความเมื่อนายวรยุทธ เดินทางกลับมาไทย ประชาชนที่พบเห็นสามารถแจ้งตำรวจให้สามารถดำเนินการจับกุมตัว เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามครรลองของกฎหมาย ตามหลักนิติรัฐได้ต่อไป