'รัฐบาลลุงตู่-ม็อบวัยใส' 3 เดือนชี้วัดใครได้ไปต่อ

ในส่วนของ “นายกฯ ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หากเป็นไปตามที่ระบุไว้ ราวๆ ต้นเดือนส.ค. 2563 จะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)และทีมเศรษฐกิจชุดใหม่

และในระหว่างปลายเดือนส.ค. ถึงต้นเดือนก.ย. คงได้เห็นหน้าค่าตา “ผบ.เหล่าทัพ” โดยเฉพาะคนที่มารับตำแหน่ง “ผบ.ทบ.” ต่อจาก “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ 

ว่ากันว่า “นายกฯลุงตู่” เลือกแล้วเลือกอีก เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตรงตามความต้องการเข้ามาคุมกองทัพ และงานด้านความมั่นคง ในห้วงสถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้าสู่โหมด “เปราะบาง”

ฟากม็อบ “นิสิตนักศึกษา” แม้ประตูแห่งโอกาสกำลังเปิด เพราะรัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำกับปัญหาการเมืองทั้งในสภาและนอกสภา กับการทยอยลาออกของรัฐมนตรี ที่เริ่มต้นจาก “ทีม 4 กุมาร” การประชุมสภา วาระสำคัญก็ล่มไปหลายครั้ง ถูกโจมตีการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐานในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 จ.ระยอง และการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร่ำเพรื่อ จนเกินความจำเป็น เหล่านี้ ล้วนเป็น “เงื่อนไข” ที่สามารถเพิ่มแนวร่วมในการชุมนุมได้ทั้งสิ้น

แต่ด้วยข้อจำกัดทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ส่งผลให้ “แกนนำ”ถูกแจ้งความดำเนินคดี อีกทั้งยังไม่เห็นภาพการบริหารจัดการ “ม็อบ” ซึ่งต้องอาศัยทรัพยากรในการเคลื่อนไหว เช่น การตั้งโรงครัว จัดชุดรักษาความปลอดภัย หรือการ์ด ทำหน้าที่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม เฉกเช่น “ม็อบรุ่นพี่” อย่าง “นปช.-พธม.-กปปส.” จึงทำให้ม็อบวัยใส มีลักษณะ “มาแล้วก็ไป”

หน่วยงานความมั่นคง ประเมินว่า สถานการณ์จะรุนแรงหรือไม่ คงต้องไปวัดกันอีก 3 เดือนข้างหน้า เพราะเป็น 3 เดือนที่เปิดโอกาสให้ ครม.-ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ได้แก้มือ สะสางปัญหาของประเทศให้ตอบโจทย์ประชาชนที่กำลังรู้สึกอึดอัดกับการบริหารงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน ก็จะได้เห็นท่าทีและจุดยืนของ "ผบ.เหล่าทัพ" ต่อสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะ ปัญหาการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจหลักของ "กองทัพ” ที่ "บิ๊กแดง" ออกมาจั่วหัวปูทางไว้

เชื่อกันว่า หากทำดี “นายกฯลุงตู่” ก็พ้นตัว “กองทัพ” ก็พลอยหายใจหายคอได้คล่องขึ้น แต่ถ้าทำไม่ดี ตัวเลขผลประกอบการภาคธุรกิจ คนว่างงาน ตกงาน และธุรกิจขนาดเล็กที่ปิดกิจการ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 จะโชว์หราในอีก 3 เดือนข้างหน้า ก็จะเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล

ก็เป็นเรื่องให้ต้องคิดว่า หากกลุ่มที่รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมาผนวกเข้ากับ “ม็อบนิสิต-นักศึกษา” ที่ใช้เวลาบ่มเพาะจนผลิดอก-ออกใบ เพื่อก่อเป็นม็อบขนาดใหญ่ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น!