SPVI - ซื้อ

SPVI - ซื้อ

คาดไตรมาส 2 จะเป็นจุดต่ำสุด ก่อนพลิกฟื้นแรงในช่วงครึ่งปีหลัง

ประเด็นสำคัญ :

  • ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple: บริษัทเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่ม iOS, MacOS และ Accessories ผ่านช่องทางร้าน iStudio by SPVI, iBeat by SPVI, U-Store by SPVI, Mobi ประกอบกับมีศูนย์บริการหลังการขายผ่านร้าน iCenter และมีสาขาที่เป็น AIS Partner โดยบริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 48 สาขา แบ่งเป็น 1) ร้านค้าปลีก 14 สาขา 2) ศูนย์บริการหลังการขาย 5 สาขา 3) U-Store 12 สาขา และ 4) AIS Shop 17 สาขา ซึ่งแบ่งเป็นโครงสร้างรายได้ดังนี้ 56%, 2%, 20% และ 13% ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทมีธุรกิจขายสินค้าให้กับองค์กรโดยตรง คิดเป็นสัดส่วนรายได้อีก 18%
  • คาดผลประกอบการงวด 2Q63 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี: เราคาดรายได้ในงวด 2Q63 ราว 716 ลบ. หดตัว 5%YoY 4%QoQ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้บริษัทปิดสาขาชั่วคราวในช่วง Lockdown ไปกว่า 34 สาขา จากทั้งหมด 48 สาขา ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. จนถึงกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หรือคิดเป็นระยะเวลาการเปิดสาขาในไตรมาส 2 เพียง 1.5 เดือน จากทั้งหมด 3 เดือน ขณะที่เราใช้สมมติฐาน %GPM จะทรงตัวอยู่ที่เดียวกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 12.4% อย่างไรก็ดี คาดบริษัทจะได้รับผลประโยชน์บางส่วนจากรายจ่ายค่าเช่าร้านที่ไม่ต้องเสียหรือได้รับส่วนลดในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เราคาดกำไรงวด 2Q63 ราว 11.4 ลบ. -9.8%YoY -5.5%QoQ และคิดเป็นผลประกอบการในงวด 1H63 ราว 23.53 ลบ. -17%YoY
  • คาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวแรง : เราคงประมาณการกำไรทั้งปี 63 ราว 74 ลบ. -2%YoY ส่งผลให้คาดผลประกอบการในช่วง 2H63 ราว 7 ลบ. คิดเป็นการเติบโต 5.4%YoY หรือ 115%HoH (จากฐานต่ำ) โดยเราคาดว่าผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีจะได้แรงหนุน 3 ประการ 1) เปิดสาขา U-Store 3 แห่งในช่วง 3Q63 และอีก 3-4 แห่งในช่วง 4Q63 2) iPhone 12 คาดเปิดตัวในช่วงปลาย ก.ย. ถึงต้น ต.ค. เป็น iPhone รุ่นแรกที่รองรับระบบ 5G ประกอบกับให้ขนาดความจุขั้นต่ำ 128GB จากเดิม 64GB ซึ่งขายในราคาใกล้เคียงกันเทียบกับสเปคเดิมในรุ่น iPhone11 จึงคาดว่า iPhone 12 จะได้รับกระแสตอบรับดีไม่แพ้กับรุ่นก่อนหน้า และ 3) สถานการณ์ COVID-19 ปรับพฤติกรรมผู้บริโภคให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น อาทิ การ Work from home และการเรียนออนไลน์โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ซึ่ง SPVI เป็นบริษัทที่มีสาขา U-store มากที่สุดเทียบกับบริษัทอื่น
  • คงคำแนะนำ “ซื้อและปรับราคาเหมาะสมเพิ่มสู่ 3.10 บาท (จากเดิม 2.78 บาท): เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PE ค่าเฉลี่ย 2 ปีย้อนหลังที่ 15 เท่า ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม COM7, JMART และ CPW ที่ 24.5 เท่า และคาดกำไรต่อหุ้นปี 64 ราว 0.21 บาทต่อหุ้น คำนวณได้ราคาเหมาะสมที่ 3.10 บาท ปรับขึ้นจากเดิมที่ราคา 2.78 บาท มีอัพไซต์จากราคาปัจจุบัน จึงคงคำแนะนำ ซื้อ

ความเสี่ยง

      i) ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและรุนแรง    ii) สินค้าล้าสมัย      iii) ถูกยกเลิกการเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple