หุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ

หุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ

บล.กรุงศรี คาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1,350-1,355 จุดก่อนจะสลับดีดตัว ตามแรงกดดันของตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้น อีกทั้งยอดผู้ติดCovid-19 ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยรุนแรง

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กรุงศรี ระบุว่า วานนี้ (23 ก.ค.) SET Index เพิ่มขึ้น 3 จุด (+0.19%) ปิดที่ระดับ 1,360 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท ดัชนียังผันผวนในกรอบจำกัด แม้จะได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับขึ้นคาดหวังสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่นักลงทุนยังระมัดระวังการลงทุนจากความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหัฐ หลังจากสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวส์ตัน และจีนขู่ตอบโต้สหรัฐเช่นกัน ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,054 ล้านบาท  แต่ Net Short TFEX 5,147 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 860 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (24 ก.ค.) เรามีมุมมองเป็นลบคาด SET อ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1,350–1,355 จุดก่อนจะสลับดีดตัว ตามแรงกดดันของตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 18 แม้ว่าจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม

อีกทั้งยอดผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยรุนแรง นอกจากนี้ยังมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว 4 วันซึ่งเป็นลบต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อในหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวหรือกลุ่มที่งบ 2Q20 เติบโต รวมถึงความคาดหวังสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาราข้ามาช่วยหนุนดัชนีให้สลับดีดตัวขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy กลุ่มอาหาร (CPF GFPT TU TFG ASIAN ) และ กลุ่มอิเล็ค ( KCE DELTA HANA SVI ) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  ( TOP PTTGC SPRC SCC BGRIM CKP CPF TU TASCO STA STGT SPALI AP PRM PTL AJ STARK CBG TQM )

หุ้นแนะนำวันนี้ TASCO (ปิด 26.75 ซื้อ/เป้า สูงสุด IAA Consensus 32) เก็งกำไรงบ 2Q20 พลิกมีกำไร 1,400-1,500 ล้านบาทเทียบกับขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาทใน 1Q20 โดยมีแรงหนุนจากการบันทึกกลับ NRV ทั้งหมดหลังจากราคายางมะตอยกลับมาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 1Q20 และ 3Q20 ยังมี Sentiment บวกจากดีมานด์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากจีนหลังจากปีนี้จีนเกิดน้ำท่วมหนักส่งผลให้รัฐจำเป็นต้องเร่งซ่อมแซมถนนหนทาง (TASCO ส่งออกยางมะตอยไปจีนคิดเป็น 40%)

JMT (ปิด 27.5 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 30) ผลประกอบการ 2Q20 ยังมีลุ้นทำ All Time High ได้ต่อเนื่อง จากยอดเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัว และคาดกำไรสุทธิจะยังเพิ่มขึ้นอีกในครึ่งปีหลังเนื่องจากพอร์ตลูกหนี้บางส่วนตัดต้นทุนหมดแล้วทำให้ได้อัตรากำไรที่ค่อนข้างสูงขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจหดตัวยังเร่งให้สถาบันการเงินเร่งขาย NPLs มากขึ้นเป็นโอกาสของ JMT ในการเข้าซื้อ NPLs ในราคาที่ถูกลงเป็นบวกต่อผลประกอบการในระยะยาว