'พิพัฒน์' ฮึดดัน 'Travel Bubble' แจ้งเกิด ก.ย.นี้

'พิพัฒน์' ฮึดดัน 'Travel Bubble' แจ้งเกิด ก.ย.นี้

“พิพัฒน์” ฮึดดัน “ทราเวลบับเบิล” แจ้งเกิด ก.ย.นี้ เผย “ศบค.” เคาะ 8 แพ็คเกจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบจำกัดพื้นที่ พร้อมออกข้อปฏิบัติต่างชาติถ่ายหนังในไทย ไฟเขียวสมาชิกอีลิทการ์ดเข้าไทย 200 คน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จะพยายามผลักดันทราเวลบับเบิลหรือเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวงจำกัด ดึงกลุ่มท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนทั่วไป (Leisure) ให้เกิดขึ้นในเดือน ก.ย.นี้ นำร่องด้วยการคลายล็อคให้กลุ่มไฮเอนด์ใช้จ่ายสูงมาเที่ยว โดยจะขอใช้เวลาตลอดเดือน ส.ค.นี้พิจารณาและสรุปว่าจะทำทราเวลบับเบิลกับประเทศใด จากเดิมเคยพิจารณาประเทศเวียดนาม ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่บางประเทศเกิดการระบาดรอบ 2 เสียก่อน

“คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเรื่องทราเวลบับเบิลว่าจะทำกับประเทศไหน เจาะเมืองหรือมณฑลใดของประเทศนั้นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันภายในเดือน ส.ค.นี้”

ส่วนกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 6 เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา อนุญาตให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 : ชาวต่างชาติที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ล่าสุดมีภาพยนตร์และซีรีส์ฟอร์มใหญ่แจ้งความประสงค์จะเข้ามาถ่ายทำ 7 เรื่อง รวมมีชาวต่างชาติเข้ามา 154 คน ใช้งบประมาณในการถ่ายทำรวมทั้ง 7 เรื่องอยู่ที่ 1,696 ล้านบาท

ขณะที่การเปิดต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยนั้น ศบค.ได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันและแพร่ระบาด รวมทั้งการเดินทางเข้าประเทศ โดยต้องมีใบรับรองแพทย์และเอกสารตามที่ ศบค.กำหนด เมื่อเดินทางถึงไทยต้องเข้ากักกันในโรงแรม 14 วันและตรวจหาเชื้อตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข มีเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมจากสาธารณสุขติดตามตลอดเวลาที่อยู่ในไทย โดยทีมงานทุกคนทั้งไทยและต่างชาติต้องมีประกันคุ้มครองค่ารักษาโรคโควิดและต้องแจ้งการใช้พื้นที่ถ่ายทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทราบล่วงหน้าเพื่อสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่ อีกทั้งทีมงานทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดตลอดระยะเวลาที่อยู่ในไทย

กลุ่มที่ 2 : ชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เบื้องต้นกำหนดเอาไว้ด้วยกัน 8 แพ็คเกจ 8 จุดหมาย ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯกำหนดเอาไว้เป็นพื้นที่นำร่อง เริ่มจากแพ็คเกจลักชัวรี จ.เชียงใหม่ 7 วัน 6 คืน, จ.ภูเก็ต 6 วัน 5 คืน,จ.ภูเก็ต 8 วัน 7 คืน, ล่องเรือยอร์ช จ.กระบี่ 5 วัน 4 คืน, เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 7 วัน 6 คืน, เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 5 วัน 4 คืน, พัทยา จ.ชลบุรี 6 วัน 5 คืน และพัทยา จ.ชลบุรี 11 วัน 10 คืน

กลุ่มที่ 3 : ผู้ถือบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท การ์ด กำหนดนำร่องให้กลุ่มที่จะขอเดินทางเข้ามาในไทยประมาณ 200 ราย ทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้ที่มีครอบครัว (คู่สมรสและบุตร) อาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มเข้ามารับการรักษาพยาบาล กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง กลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิพำนักอาศัยในไทย โดยถือบัตรสมาชิกจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของรัฐบาลและ ศบค.อย่างเคร่งครัด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท การ์ด รวม 10,363 ราย อยู่ในไทย 3,108 ราย และอยู่นอกประเทศ 7,255 ราย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) กล่าวเสริมว่า ส่วนกลุ่มที่ 4 ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามางานจัดแสดงสินค้า ซึ่งจะเริ่มเห็นการเดินทางเข้ามาในเดือน ก.ย.นี้เพื่อร่วมงาน THAIFEX ประมาณ 600 คน ส่วนในเดือน ต.ค.จะเดินทางเข้ามาราว 1,100 คน เดือน พ.ย. 4,000 คน และเดือน ธ.ค.นี้อีก 1,000 คน