'รองโฆษก ตร.' ชี้ม็อบนักศึกษาชุมนุมเดือนก.ค. ผิด 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'

'รองโฆษก ตร.' ชี้ม็อบนักศึกษาชุมนุมเดือนก.ค. ผิด 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'

"รองโฆษก ตร." ชี้ม็อบนักศึกษาชุมนุมก่อนสิ้นเดือนก.ค. ถือว่าผิด "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ตำรวจใช้กฎหมายดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง เตือนให้ระวังการแสดงออก

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.63  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19 ) มีมติขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน ในเดือน ส.ค. นี้ โดยจะไม่ใช้บังคับกับการชุมนุมสาธารณะ ตามที่สื่อได้นำเสนอข่าวไปก่อหน้านี้นั้น ในช่วงนี้ประเทศไทย อยู่ในช่วงการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด–19ภายใต้การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำให้การชุมนุมในช่วงเวลานี้เป็นการละเมิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุม ทำกิจกรรม ที่เป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตามข้อกำหนดฉบับที่ 1 ข้อ 5 และการชุมนุม หรือทำกิจกรรมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามประกาศของ ผบ.สส./หัวหน้าผู้รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง

  

ซึ่งหากมีการชุมนุม ทำกิจกรรม ขึ้นในระหว่างนี้ ก่อนถึงสิ้นเดือน ก.ค.63 ถือว่าการชุมนุม ทำกิจกรรมดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามข้อกำหนดข้างต้น ซึ่งจะต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม มาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในประเด็นที่จะมีการงดเว้นบังคับตามข้อกำหนดที่ออกตาม มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการชุมนุม ดังกล่าว ของทางรัฐบาล และ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19 ) หรือ (ศบค.) ทราบว่า เจตนารมย์เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ ในการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุมและป้องโรคติดต่อเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองอย่างใด ส่วนประเด็นที่ว่าการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ยังมีการห้ามชุมนุม อีกหรือไม่นั้น คงต้องรอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อกำหนดที่ออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการชุมนุมที่เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้

ทั้งที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ (18 ก.ค. 63) หรือ หน้ากองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ (20 ก.ค. 63) หรือ การชุมนุมแสดงความเคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างจังหวัด ในหลายๆพื้นที่ เมื่อวันที่ (22 ก.ค. 63) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิด ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง ข้อกฎหมายต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า อยากจะให้ผู้ชุมนุมได้ตระหนักและเข้าใจข้อกฎหมายและระมัดระวังในการแสดงออก และคำนึงถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย ซึ่งบางท่านอาจจะยังไม่ทราบหรือไม่ได้นึกถึงประเด็นนี้ ถ้าเป็นในช่วงเวลาปกติที่ไม่ได้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การชุมนุมก็สามารถทำได้ตามสิทธิเสรีภาพในกรอบที่กฎหมายกำหนด ของ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯพร้อมทั้ง ขอฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองหรือครอบครัวของบุตรหลาน หรือ เยาวชนผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมด้วยว่า อยากให้มีการเตือนบุตรหลานและเยาวชน ต้องเคารพกฎหมาย ในการทำอะไรต่างๆ ถ้าหากว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาแล้ว ทำผิดกฎหมายแล้ว เจ้าหน้ารัฐก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตไม่มากก็น้อยและอาจมีประวัติการต้องโทษติดตัวไปตลอด ไม่สามารถลบออกไปได้