อ่อนตัว

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1366 / 1380 จุด แนวรับ 1340 / 1330 จุด ปัจจัยลบ คือ การวิตกต่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า หลังจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งขึ้น และความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้น ส่วนปัจจัยบวก คือ สภาสหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการทางการคลังเพิ่มเติม ขนาด USD1Trn และข่าวพัฒนาการวัคซีน

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

       1) ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกเช้านี้อ่อนตัวเล็กน้อย จับตาสถานการณ์จีนกับสหรัฐฯ และรายงานจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้

       2) สภาสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุปต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังมีความเห็นต่างระหว่างพรรครีพับลิกันกับพรรคเดโมแครต ต่อวงเงินและรายละเอียด ทำให้อาจยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ค.

       3) ข่าวการสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮุสตัน และจีนตอบโต้โดยการปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ที่หวู่ฮั่น เพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมหาอานาจโลกและเป็นความเสี่ยงเชิงลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

      4) ประเทศไทยมีความเสี่ยงติดโผ Watch List ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรายงาน FX Report กลางปี

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: Earnings-Dow, Intel, Twitter, Travelers, South Korea-2Q20E GDP คาด -2% YoY -2.3% QoQ (Vs 1Q20 เติบโต +1.4% YoY -1.3% QoQ), EU- Consumer Confidence เดือน ก.ค. คาด -12 (Vs เดือน มิ.ย. -14.7), USA-Weekly Initial Jobless Claims สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค. อยู่ที่ 1.3 ล้านราย (เท่ากับสัปดาห์ก่อน), Japan-วันหยุดยาว Marine Day

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดการซื้อขาย ก่อนมาปิดใกล้ระดับต่ำสุดของวันที่ 1357.04 จุด -19.96 จุด -1.45% วอลุ่ม 6.39 หมื่นล้านบาท กลุ่มธุรกิจการเกษตรฯ -7.34% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -2.84% หุ้นร่วง >4% STA BBL STGT IVL CRC PSL SPVI GC DDD SVI GGC KAMART หุ้นบวก >4% ICHI BFIT NEX TIPCO JKN ASAP SMT MALEE RSP SAT AH CFRESH

+/- ตลาดหุ้นโลกปิดผสมผสาน: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกรับข่าวทางการสหรัฐฯ ได้ทำสัญญาจองซื้อวัคซีนกับ Pfizer และ BioNTech DJ +0.62% S&P500 +0.57% Nasdaq +0.24% แต่หุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างปรับตัวลง วิตกสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ DAX -0.51% CAC40 -1.32% FTSE -1% วิตกสถานการณ์สหรัฐฯ กับจีน และการระบาด COVID-19 ที่พุ่งต่อเนื่อง

+/- น้ำมันดิบปิดย่อ แต่ทองคำพุ่ง: รายงานสต็อกน้ามันดิบสัปดาห์ก่อนของ EIA ที่สูงกว่าคาด (เพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล Vs คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล) เป็นปัจจัยถ่วงราคาน้ำมันดิบ WTI -USD0.02 USD41.90/บาร์เรล Brent -USD0.03 ปิด USD44.29/บาร์เรล ส่วนทองคำปิดที่ระดับสูงสุดรอบ 9 ปี ที่ USD1,865.10/ออนซ์ +USD21.20 หรือ 1.15% จากการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Global COVID-19: อิงข้อมูล Worldometers 24 ชม. ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 15.36 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 6.25 แสนราย นำโดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 4.1 ล้านราย ผู้ติดเชื้อใหม่ 7.09 หมื่นราย (วันก่อนหน้า +6.62 หมื่นราย) บราซิล +6.53 หมื่นราย (จาก 2.16 หมื่นราย)

- ญี่ปุ่น: พบผู้ติดเชื้อวานนี้สูงถึง 795 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. และผู้ว่ากรุงโตเกียวเตือนให้หลีกเลี่ยงออกนอกบ้านช่วงวันหยุดยาว 4 วันนี้

- HK: ทางการสั่งให้สวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะ เช่น ตลาด มอลล์ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธเป็นต้นไป หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วานนี้ทำสถิติสูงสุด 113 ราย

+ ไทย: ศบค. รายงานวันพุธ (วันที่ 22 ก.ค.) พบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 6 ราย และอยู่ในสถานกักกัน (Vs วันอังคารที่ผ่านมา มีจำนวน 5 ราย) สะสม 3,261 ราย

+ USA: Pfizer ได้รับเงินจากรัฐบาลสหรัฐฯ USD1.95bn เพื่อผลิตและส่งมอบวัคซีนต้าน COVID-19 จำนวน 100 ล้านโดส และส่วนเพิ่มอีก 500 ล้านโดส หากวัคซีนได้การรับรองว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

- US-China: สหรัฐฯ แจ้งให้จีนปิดสถานกงสุลที่เมือง Houston ภายใน 72 ชม. เพื่อป้องกันการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลของคนสหรัฐฯ โดยที่สหรัฐฯ จะไม่อดทนต่อการฝ่าฝืนอธิปไตยของสหรัฐฯ ขณะที่จีนประกาศจะตอบโต้สหรัฐฯ โดยจะปิดสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ที่หวู่ฮั่น หากไม่รีบแก้ไขคำสั่งดังกล่าวทันที

- ไทย: UBS เผยไทยอาจติดโผเป็นครั้งแรก หลังรายงาน FX Report สำหรับรายชื่อประเทศที่รัฐบาลสหรัฐฯ จับตามองเป็นพิเศษ (Watch List)

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: PTG MTC TISCO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ICHI PTL AH DELTA CHAYO CPF

Derivatives: เปิดสถานะ Short S50U20 เก็งกำไรเมื่อดีดตัวช่วง 10:30 น. (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)