บล.บัวหลวง แนะกระจายความเสี่ยง เน้นลงทุนหุ้นนอก

บล.บัวหลวง แนะกระจายความเสี่ยง เน้นลงทุนหุ้นนอก

บล.บัวหลวง แนะนักลงทุนกระจายพอร์ตลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศ หวังกระจายความเสี่ยง หลังคาด ดัชนีช่วงครึ่งปีหลังส่อเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280-1,450 จุด ส่วนสิ้นปีคาดไม่เกินระดับ 1,360 จุด พร้อมคาดตลาดหุ้นจะฟื้นตัวกลับมาเท่าก่อนโควิดอาจต้องใช้เวลานานถึง 3 ปี

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบันการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเริ่มจำกัดและหุ้นตัวเลือกสำหรับการลงทุนน้อยลง จึงแนะนำให้นักลงทุนควรหันมาลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ในตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีมากนักหรือหาไม่ได้ เช่น กลุ่มค้าปลีกออนไลน์ (อีคอมเมิร์ช), กลุ่มซอฟต์แวร์บริการ และกลุ่มการแพทย์ (เฮลแคร์)

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทเปิดให้ลูกค้าบล.บัวหลวง สามารถนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้สะดวกมากขึ้น โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศที่ครอบคลุมการให้บริการทั้งในตลาดหุ้นสหรัฐฯ,ตลาดหุ้นเวียดนาม และตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งหากนักลงทุนไม่ถนัดในการลงทุนในหุ้นรายตัวก็สามารถเลือกลงทุนเป็นตรีมหรือเน้นลงทุนใน ETF ต่างประเทศได้  

ขณะที่ในส่วนของแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ มองว่าดัชนีฯน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280-1,450 จุด ซึ่งปัจจัยกดดันตลาดหุ้นหลักๆมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจยาวนานกว่านักลงทุนคาด,ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว และกำไรบริษัทจดทะเบียนลดลงแรงกว่าที่คาด ขณะที่สิ้นปี 2563 คาดว่าดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ระดับประมาณ 1,360 จุด โดยเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวกลับไปเท่ากับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่อยู่ในระดับ 1,520 จุด อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีนี้ข้างหน้า

นอกจากนี้ในช่วงครึ่งหลังปี แนะนำลงทุนด้วยกลยุทธ์สลับเปลี่ยนกลุ่มลงทุนเป็นรอบๆ หรือขึ้นให้ขาย ลงให้ซื้อ โดยเน้นลงทุนหุ้นไทยโดยผสมระหว่างหุ้นเติบโตและกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ให้ปันผลสูง โดยปัจจุบันมองว่าหุ้นที่สามารถลงทุนได้อยู่ อาทิ CPF,TFG,SCC,SAWAD,MTC,JASIF,GULF และBGRIM