'ประยุทธ์' ล็อก 3 เก้าอี้ 'สุริยะ' วืดรมว.พลังงาน

 “อนุชา” นั่งรมต.สำนักนายกฯ “สุชาติ” รอเคาะสลับกระทรวง “นฤมล” ทำใจไร้ชื่อในโผครม. ด้านครม.ตั้ง“สันติ” ประธาน กมธ.งบฯปี 64

หลังจากคณะกรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ (กก.บห.พปชร.) มีมติส่งรายชื่อโผคณะรัฐมนตรี ของพรรคจำนวน 5 รายชื่อ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม พิจารณา ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ได้แจ้งต่อที่ประชุม กก.บห.พรรคว่า นายกฯ ให้โควตา พรรคพปชร.เพียง 2 คนเท่านั้น

ล่าสุด มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ ทั้งหมด 5 ตำแหน่ง เข้ามาแทนการลาออกของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และกลุ่ม 4 กุมาร 4 ตำแหน่ง และการลาออกของนายเทวัญ ลิปพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง โดยในโควตาของนายเทวัญ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้จัดสรรให้พรรคเล็กอย่างที่มีการคาดการณ์ โดยได้ยึดมาเป็นโควตาของพรรค พปชร.แทน

มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทาบทามบุคคลภายนอก 3 คน ประกอบด้วย นายปรีดี ดาวฉาย นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ให้เข้ามาอยู่ในทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ โดยจะจัดสรรให้ทั้ง 3 คน ดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง รมว.พลังงาน และรมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แต่ยังไม่เคาะว่าใครจะนั่งกระทรวงใด

“สุริยะ”ยอมถอยรมว.พลังงาน

ส่วนโควตาของพรรค พปชร.จำนวน 2 ตำแหน่ง ที่นายกฯจัดสรรให้นั้น คาดการณ์ว่า นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค พปชร. จะเข้าร่วมในครม.ชุดใหม่ และไม่ใช่ตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม ตามที่พรรคเสนอชื่อไป เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่ถูกโยกไปกระทรวงพลังงาน อย่างที่คาดหมายไว้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ นายอนุชาจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้มีรายงานว่า กลุ่มสามมิตร ทั้งนายสุริยะ นายอนุชา และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ยอมรับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด และจะไม่มีการนำส.ส.มาแถลงข่าวกดดันการปรับ ครม.แต่อย่างใด

ลุ้น“ธรรมนัส”นั่งรมช.มหาดไทย

สำหรับโควตาพรรค พปชร.อีก 1 ตำแหน่ง นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี มีโอกาสสูงกว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยพล.อ.ประยุทธ์มีแนวคิดที่จะโยก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มาดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เปิดทางให้นายสุชาติ มาดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ร.อ.ธรรมนัส เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาไม่นาน ซึ่งไล่เลี่ยกับนางนฤมล ที่ขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้าเช่นเดียวกัน จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส จึงได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยมีรายงานข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้เดินทางต่อไปพบกับนายสุริยะ แต่ยังไม่มีรายงานว่าได้หารือกันเรื่องใด

“ประยุทธ์”แย้มปรับครม.เรียบร้อย

ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เรียบร้อย ไม่มีอะไร” พร้อมทำท่าผายมือ และหันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี

“บิ๊กป้อม”ชี้โผ ครม.เรื่องลับ

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ตอบข้อถามถึงการส่งโผรายชื่อรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วหรือไม่ว่า “ตอนนี้ผมไม่ทราบว่านายกฯ เคาะตำแหน่ง ครม.ใหม่เสร็จแล้วหรือยัง เพราะเป็นเรื่องลับ ต้องรอนายกฯ นายกฯจะเอาใครก็ได้ แล้วแต่นายกฯ ส่วนผมไม่ไหวแล้ว และไม่รับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยตามที่พรรคเสนอ”

ส่วนชื่อของนางนฤมล ทางพรรคได้ส่งชื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งนี้ด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ตอบว่า บอกแล้วให้รอ รอดูว่ามีใครบ้าง นายกฯจะเลือกใครก็ได้ จะมีชื่อหรือไม่มีชื่อก็เลือกได้ และสามารถหยิบชื่อใครมาก็ได้

“สมศักดิ์”ทำใจ“สุริยะ”วืดพลังงาน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่โผคณะรัฐมนตรี พลิกนาทีสุดท้ายและปรากฏว่านายสุริยะ และนายอนุชา ไม่ได้ตำแหน่งตามที่ต้องการว่า เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่พูดคุยกันภายในพรรค เมื่อได้ข้อยุติก็ส่งเรื่องให้กก.บห.พรรค และพล.อ.ประวิตร เพื่อเสนอนายกฯ จึงไม่ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะหากเปลี่ยนแปลงนายกฯคงแจ้งมาทางหัวหน้าพรรค

“พวกผมไม่เคยมีปัญหา ทำงานกันต่อไป และถือเป็นเรื่องของพรรคที่จะพิจารณาว่า พรรคพลังประชารัฐยังเป็นพลังหรือไม่ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของแต่ทุกคนที่มีอยู่ ซึ่งพวกผมได้ทำตามหน้าที่ของตนเอง ครบถ้วนแล้ว จึงไม่อยากคิดมาก เพราะหากคิดมากก็คงนอนไม่หลับ” นายสมศักดิ์ กล่าว

“นฤมล” ไม่ผิดหวังนั่งเก้าอี้เดิม

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีรายชื่อว่าล่าสุดหลุดจากโผ ครม.จากเดิมมีชื่อว่าจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ไม่มีปัญหา ทุกอย่างทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน ก็สามารถทำงานได้

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ไม่ได้แจ้งหรือส่งสัญญาณอะไร รวมถึงในพรรคพปชร. ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งอะไรมาแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวว่า แสดงว่าไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนรับได้ใช่หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ที่พูดคุยกันในพรรคก็เป็นเช่นนี้ ซึ่งเป็นอำนาจของนายกฯ และวันนี้ก็รู้สึกสบายใจ ทุกอย่างก็ปกติดี เมื่อถามว่า รู้สึกผิดหวังหรือไม่หากไม่ได้ตำแหน่ง นางนฤมล กล่าวว่า “ไม่ผิดหวัง ไม่มีอะไรค่ะ”

“สันติ"นั่งปธ.กมธ.งบแทน“อุตตม”

ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยมีนายชวนหลีกภัยประธานสภาฯเป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการลาออกจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564ของนายอุตตม สาวนายนอดีตรมว.คลังดังนั้น จึงต้องแต่งตั้งกรรมธิการฯ เข้าไปแทนโดยเป็นโควตาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายพุฒิพงษ์ปุณณกันต์รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เสนอชื่อนายวิรัช รัตนเศรษฐส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐเป็นกรรมาธิการฯ แทนนายอุตตม

ทั้งนี้ที่ประชุมกมธ.ได้มีมติแต่งตั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ รมช.คลัง เป็นประธานกมธ.แทนนายอุตตมเช่นกัน

“ชาดา”เผยเคลียร์โควตาอนุกมธ.จบ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กล่าวถึงกรณีองค์ประชุมกมธ. ล่มว่า ขณะนี้มีการคุยกันเบื้องต้นกับผู้ใหญ่ ในการลงตกลงโควตาของอนุกมธ.ต่างๆ ในกมธ.งบประมาณฯ และจะมีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ก.ค.
ยอมรับว่าที่ผ่านมาในการตั้งคณะอนุกมธ. งบปี 2563 คนของพรรคพปชร.ก็เป็นประธานทั้งหมด แต่ในปีนี้ในเมื่อเราทำงานร่วมกันก็ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล

“อยากทำความเข้าใจว่าในกมธ.งบฯ ไม่มีการแบ่งพรรคฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เพราะเราทำงานร่วมกันในการจะตัดงบประมาณ โดยเฉพาะงบรายจ่ายประจำ เพื่อให้ครม. แปรญัตติแล้วให้นำงบไปเพิ่มเติมในหน่วยงานต่างๆ ที่เหมาะสม ไม่ใช่ตัดแล้วคืนกลับอย่างปีที่แล้ว ซึ่งไม่ได้ทำไปใช้อะไรเลย ดังนั้นเราต้องคุยกรอบกันให้ชัดเจน” นายชาดา กล่าว