“ริสแลนด์”เดินหน้าลงทุน ดัก“กำลังซื้อจีน”ส่อฟื้น

“ริสแลนด์”เดินหน้าลงทุน    ดัก“กำลังซื้อจีน”ส่อฟื้น

ริสแลนด์ ยักษ์อสังหาฯจีน เดินหน้าลงทุนไทยต่อเนื่อง ดักโอกาสผู้ซื้อชาวจีน เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวเดินแผนเปิดตัว 3 โครงการ

นายเกษมศักดิ์ สุนทโรทก ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด ริสแลนด์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้ว่าเกิดวิกฤติโควิดแต่นโยบายของบริษัทยังคงเดินหน้าลงทุน โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผน3 โครงการโครงการแรกของปี “คลาวด์ เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 23”มูลค่าโครงการ 3,600 ล้านบาท สูง 43 ชั้น ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 5.99 ล้านบาท เทียบกับคู่แข่งขันในทำเลมีราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท

โครงการที่สอง โครงการ “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64”เฟสแรกจำนวน4 อาคารมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาทในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท เปิดพรีเซลล์ 1 - 2 ส.ค.นี้ เฉลี่ยตร.ม.ละ1250,000 บาทและในเดือน ส.ค. จะเปิดตัวโครงการ ส่วนในเฟสที่สองอีกจำนวน 3 อาคารจะเริ่มหลังจากที่เฟสแรกมียอดขายถึง80% เนื่องจากเป็นโครงการมีขนาดใหญ่ที่มูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท

“ โครงการนี้ถือเป็นเรือธง ที่รองรับกลุ่มเป้าหมายทั้งปัจจุบันและในอนาคต เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง เพราะเป็นแหล่งงาน โรงเรียนนานนานชาติหลายแห่ง ที่สามารถรองรับกลุ่มคนไทยและต่างชาติ"

โครงการที่สาม เดอะ ลิฟวิ่น รามคำแหงจะเป็นคอนโดจำนวน 1,938 ยูนิต มูารนี้ถือเป็นเรือธง ที่รองรับกลุ่มเป้าหมายทั้งปัจจุบันและในอนาคต เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง เพราะเป็นแหล่งงาน โรงเรียนนานนานชาติหลายแห่ง ที่สามารถรองรับกลุ่มคนไทยและต่างชาติมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เลื่อนเปิดตัวมาจากปี 2562 ที่ผ่านมา ส่วนโครงการที่สี่โครงการวิลล่า ลักชัวรี่ โฮเทล รีสอร์ทเกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ตบนพื้นที่มากกว่า 20 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของโรงแรม วิลล่า และคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นโครงการที่เลื่อนการเปิดตัวอีกครั้งไปเป็นปีหน้า เพื่อรองรับการกลับเข้ามาของกำลังซื้อจากต่างประเทศ หลังจากที่มีการเปิดน่านฟ้าของประเทศไทย รวมถึงกำลังซื้อในอีก2-3ปีข้างหน้าในตลาดคอนโดที่กลับมาอีกครั้ง

ทั้งนี้บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณกำลังซื้อความเชื่อมั่นกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะคนจีนทั้งจากแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวันที่มีความต้องการซื้ออสังหาฯในประเทศไทยสูงขึ้นต่อเนื่อง มองว่าอสังหาฯไทย เป็น“เซฟเฮเว่น” (Safe Haven) ที่สามารถพึ่งพาได้ยามที่เกิดวิกฤติ โดยเฉพาะกลุ่มคนจีนในฮ่องกง ที่กำลังจุดเปลี่ยนสำคัญที่ต้องกลับสู่อ้อมอกแผ่นดินจีนจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

“ครึ่งปีแรกเรามียอดจองจากคนจีนเยอะจากโครงการเดิมที่มีอยู่จำนวน 7 โครงการมูลค่ารวม51,000ล้านบาทมียอดขายโตต่อเนื่อง เฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีสัดส่วน 50% ในจำนวนนั้น70% จะเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง ยิ่งมีเหตุการณ์ที่ฮ่องกงตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะราคาอสังหาฯในไทยถูกกว่าฮ่องกงค่อนมากโดยซื้อผ่านโลคัลเอเจนท์ที่นั่น ส่วนที่เหลือ 30%เป็นชาติอื่น โดยยอดขายโครงการที่เหลือไม่ถึง50% ”