ปรับ ครม. พปชร.ระส่ำ..พรรคร่วม ลองของ!

ปรับ ครม. พปชร.ระส่ำ..พรรคร่วม ลองของ!

การลาออกของบรรดารัฐมนตรี กลุ่ม4กุมาร (สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ,อุตตม สาวนายน รมว.คลัง, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, สุวิทย์ เมษินทรีย์ ) ,เทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.สำนักนายกฯ หรือล่าสุดคือกรณีของ “หม่อมเต่า” จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน

ดูเหมือนว่า แรงกดดัน” จะยิงตรงไปที่ตัว “บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม บีบให้เร่งปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อลดสุญญากาศ ที่เกิดขึ้น

แม้ก่อนหน้านี้ตัวพล.อ.ประยุทธ์ จะยืนยันหนักแน่นว่า อำนาจในการตัดสินใจเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว  แต่พอเอาเข้าจริง บรรดาองคาพยพ” กลับไม่ได้ว่านอนสอนง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะเก้าอี้รมว.พลังงาน ที่แม้ตัว บิ๊กตู่” จะเคยบอกว่า เก้าอี้ดังกล่าวอยู่ในส่วนของโควตากลาง 

แต่ดูเหมือนว่า ในส่วนของพลังประชารัฐจะยังคงยืนยันว่า โควตาดังกล่าวเป็นโควตาเดิมของ “สนธิรัตน์ อดีตเลขาฯ ซึ่งเป็นโควตาของพรรค เห็นได้ชัดจากความพยายามในการเสนอชื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม เพื่อชิงตำแหน่งดังกล่าวที่พ่วงมาด้วยการทวงสัญญาใจระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลกับพรรค

 

ไม่ต่างไปจากพรรคร่วมโดยเฉพาะ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กุมบังเหียน หรือ กระทรวงคมนาคม โควตาของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” กำกับดูแล

ที่ดูเหมือนว่า จะมีการส่งสัญญาณจากพล.อ.ประยุทธ์ ในการขอแลกกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ให้กลับมาอยู่ในโควตากลางทั้งหมดเพื่อง่ายต่อการคอนโทรล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตัวนายกฯบอกว่าจะไม่ไปเตะต้องโควตาดังกล่าว

ไม่ทันไร ฝ่ายพรรคร่วมอย่าง ประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทย ดูเหมือนว่าจะเริ่มเปิดเกมลองของ เห็นได้จากการจับมือวอร์คเอาท์ออกจากห้องประชุมกมธ.งบประมาณ 64 จนเหลือเพียงกมธ.ซีกพรรคพลังประชารัฐ เพียง19 คน จนทำให้องค์ประชุมล่มในท้ายที่สุด

แม้ทางฝั่งกมธ.กลุ่มที่วอร์คเอาท์ อาทิ ชาดา ไทยเศรษฐ์” ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นกมธ.ที่เสนอให้นับองค์ประชุม จะให้เหตุผลการวอร์คเอาท์ ว่าเป็นเรื่องของการทำหน้าที่ในกมธ.ที่ไม่มีความชัดเจน ไม่ได้เกี่ยวกับความไม่พอใจในเรื่องการปรับครม.แต่อย่างใด

แต่การที่เหตุประชุมกมธ.ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการปรับครม.ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการลองของ ของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล และสะท้อนให้เห็นถึงรอยร้าว ภายในขั้วรัฐบาลอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะหากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้มีเหตุสภาล่มมาแล้วถึง3ครั้ง

งานนี้คนที่ดูเหมือนจะปวดหัวที่สุด หนี้ไม่พ้นตัว พล.อ.ประยุทธ์ที่จะต้องเร่งเคลียร์ศึกภายในขั้วพลังประชารัฐและรัฐบาลให้จบโดยเร็วเพราะไม่เช่นนั้นก็อาจกลายเป็นการนับถอยหลังรัฐบาลในท้ายที่สุด!!