ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวต้าน 1366 / 1370 จุด แนวรับ 1350 / 1340 จุด ปัจจัยบวก คือ การพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติมของสหรัฐฯ และผลทดสอบวัคซีนรักษา COVID-19 ที่ได้ผลดี ปัจจัยลบ คือ รายงานผลกำไรกลุ่มธนาคารไทยออกมาแย่กว่าคาด ความเสี่ยงทางการเมือง จากการชุมนุมประท้วงและการวิตกต่อทีมเศรษฐกิจชุดใหม่

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

       1) พัฒนาการของวัคซีน ช่วยหนุนความเชื่อมั่นต่อทิศทางขาขาขึ้นของตลาดหุ้นโลก

       2) กลุ่มธนาคารประกาศงบต่อเนื่อง (วานนี้ KBANK KKP รายงานกำไรแย่กว่าคาด)

       3) พรรคพลังประชารัฐเสนอรายชื่อให้นายกฯ พิจารณาสาหรับตำแหน่งที่ว่างในครม. วันนี้

       4) สภาสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ วงเงินไม่น้อยกว่า USD1Trn

       5) บจ. สหรัฐฯ ทยอยประกาศงบจำนวนมากสัปดาห์นี้ และที่ผ่านมา 73% รายงานกำไรดีกว่าคาด

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: Earnings-UBS, Coca-Cola, Texas Instruments, Australia- Central bank minutes, Japan-เงินเฟ้อ เดือน มิ.ย. คาด 0.1% YoY (Vs เดือน พ.ค. 0.1%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา


- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย: ตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ 1352-1365 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1358.29 จุด -1.29 จุด -0.09% วอลุ่ม 5.23 หมื่นล้านบาท กลุ่มธนาคาร -2.23% แต่กลุ่มธุรกิจการเกษตร +2.24% หุ้นขึ้น >4% JMART JMT TFG CHAYO DOHOME BLA NER PSL NEX DOD GC PSL

+ ตลาดหุ้นโลกปิดสูงขึ้น: ข่าวผลทดสอบวัคซีนต้าน COVID-19 ของ AstraZeneca ที่สามารถสร้างภูมิต้านทานได้ดี และแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี นำโดย Amazon +7.9% เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJ +0.03% S&P500 +0.84% Nasdaq +2.51% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่อง DAX +0.99% CAC40 +0.47% ลุ้นผลประชุมผู้นำอียูต่อการอนุมัติกองทุน Recovery Fund มูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร แต่ FTSE -0.46% จากวิตกความขัดแย้งกับจีน หลังอังกฤษประกาศยกเลิกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง

+ น้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +USD0.22 ปิดUSD40.81/บาร์เรล Brent +USD0.14 ปิด USD43.28/บาร์เรล ขานรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการทดลองวัคซีนต้าน COVID-19 ของ AstraZeneca ส่วนราคาทองคำขึ้นต่อเนื่องอีก +USD7.40 ปิดที่ USD 1817.40/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Global COVID-19: อิงข้อมูลWorldometers 24 ชม. ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 14.84 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 6.12 แสนราย นำโดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 3.96 ล้านราย ผู้ติดเชื้อใหม่ 6.26 หมื่นราย (วันก่อนหน้า +6.32 หมื่นราย)

+ ไทย: ศบค. รายงานวันจันทร์ (วันที่ 20 ก.ค.) พบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย มาจากสิงคโปร์และอยู่ในสถานกักกัน (Vs วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีจำนวน 3 ราย)

+ วัคซีน: Pfizer บริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และ BioNTech บริษัทยาเยอรมนี เผยผลทดสอบวัคซีนกับผู้ทดสอบ 60 ราย ของเยอรมนี โดยให้จำนวน 2 โดส พบว่า สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้แบบปลอดภัย และได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษในการส่งมอบวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 จำนวน 30 ล้านโดส ในปีนี้และปีหน้า ทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนวัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกับ AstraZeneca เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ The Lancet ที่ทดสอบกับคน 1000 ราย ระยะเวลา 28 วัน ว่าวัคซีนดังกล่าวสามารถสร้างเม็ดเลือดขาวและแอนตี้บอดีกำจัดเชื้อ COVID-19 พร้อมกับสร้างภูมิป้องกันได้ด้วย ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวจะมีการทดสอบครั้งใหญ่ที่สหรัฐฯ ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

+/- ไทย: Banking Sector-กำไรดีกว่าคาด SCB, กำไรแย่กว่าคาด KBANK KKP, กำไรใกล้เคียงคาดการณ์ TMB

+ ไทย: ธปท-ผู้ว่าธปท. เผยเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในช่วง 2Q20 ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก และจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป

- ไทย: การปรับครม.-นายเทวัญ ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนา ประกาศลาออกจากรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกฯ ตัดสินใจปรับครม. ได้ง่ายขึ้น

- China: Loan Prime Rate 1 ปี และ 5 ปี คงดอกเบี้ยตามคาดที่ 3.85% และ 4.65% ตามลำดับ

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: PTG MTC TISCO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ADVANC CHAYO CPF INTUCH JMART PTL SCC

Derivatives: ชะลอเก็งกำไร S50U20 รอราคาเลือกทาง (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)