ศรชล. ลั่นให้เวลา 15 วัน รื้อขนำ-คอกหอย 'อ่าวบ้านดอน'

ศรชล. ลั่นให้เวลา 15 วัน รื้อขนำ-คอกหอย 'อ่าวบ้านดอน'

"พล.ร.ท.สำเริง" ลั่น ศรชล. นำทีมลุยอ่าวบ้านดอนโค้งสุดท้าย ปิดประกาศคำสั่งให้รื้อถอนขนำและคอกหอยภายใน 15 วัน

วันนี้ (21 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ ศรชล. นำโดย พลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทหารเรือภาค 2 หรือ ผู้อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 ( ผอ.ศรชล.ภาค2 ) นำหนังสือประกาศคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่สร้างลงในที่จับสัตว์น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาติจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางลงเรือไปติดประกาศคำสั่งตามขนำที่กระทำผิดกฎหมายที่อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี

โดยหนังสือคำสั่ง ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่สร้างลงในที่จับสัตว์น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาติจากพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เลขที่ 01/2563 มีเนื้อหาดังนี้ ด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ตรวจพบสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะเป็นขนำหลังนี้และคอกหอยบริเวณขนำนี้ที่ได้สร้างลงในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จับสัตว์น้ำให้ผิดจากสภาพที่เป็นอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาติ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา62แห่งพระราชกำหนดการประมงพ.ศ.2558 และได้ร้องทุกข์ไว้แล้วตาม คดีอาญาที่ 1619/2563 ลงวันที่ 16 มิ.ย.2563 ณ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี

อาศัยอำนาจตามมาตรา 103 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 พนักงานเจ้าหน้าที่จึงออกกคำสั่งให้เจ้าของหรือผู้ที่ครอบครองรื้อถอนขนำหลังนี้และคอกหอยบริเวณขนำนี้ออกจากที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ปิดคำสั่งนี้ หากไม่มีการรื้อถอนขนำหลังนี้และคอกหอยบริเวณขนำภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างนี้ โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองต้องรับผิดชอบค่าใช่้จ่ายในการดำเนินการรื้อถอน

ประกาศ ลงวันที่ 21 ก.ค. 2563

สำหรับการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ 2 อำเภอคือ อ.เมืองกับ อ.พุนพินมีทั้งหมด 173 คดี เป็นพื้นที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีจำนวน 90 คดีและที่ สภ.พุนพินจำนวน 83 คดี ซึ่งทุกคดีทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ. กรมเจ้าท่า พ.ร.บ.ที่ดิน พ.ร.บ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พ.ร.ก.กรมประมง2558และแก้ไข2560 ทั้งนี้มีผู้ประกอบการให้ความร่วมมือรื้อถอนขนำในพื้นที่อำเภอเมือง/อำเภอพุนพินและอำเภอกาญจนดิษฐ์ไปแล้วจำนวน 31 ราย ส่วนที่เหลือยังไม่รื้อถอน อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่ปิดหมายเสร็จสิ้นจะเข้าดำเนินการในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ที่มีการก่อสร้างขนำถึง 450 หลังต่อไป