สถาบันมองบวก‘หุ้นจีน’ เชียร์ซื้อช่วงดัชนีพักฐาน

สถาบันมองบวก‘หุ้นจีน’ เชียร์ซื้อช่วงดัชนีพักฐาน

กองทุน ยังเชียร์ซื้อหุ้นจีน รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นชัด แนะช่วงดัชนีพักฐานถือเป็นโอกาสเข้าสะสมเพิ่ม ฟันธงระยะกลางถึงยาว ยังได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจที่โตแกร่ง ขณะ ราคายังไม่แพงเมื่อเทียบกับทั้งในอดีตและตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค

ตลาดหุ้นจีนช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา “แกว่งตัว” ค่อนข้างแรงทั้งขาขึ้นและขาลง ตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบในแต่ละช่วง โดยปัจจัยที่หนุนให้ตลาดหุ้นจีนเพิ่มขึ้น คือ ตัวเลขเศรษฐกิจหลายๆ ตัวออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนปัจจัยที่กดดัน คือ ประเด็นความขัดแย้งกับสหรัฐ ในขณะที่นักลงทุนสถาบันแนะนำว่าช่วงที่ดัชนีหุ้นจีนปรับลดลงแรงถือเป็นจังหวะดีที่จะเข้าลงทุนเพิ่ม 

สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นจีน “เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต” ล่าสุดวานนี้(20ก.ค.) ปรับเพิ่มขึ้นราว 3.11% ขานรับธนาคารกลางจีน(พีบีโอซี) ตัดสินใจคงดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี(LPR) ไว้ระดับเดิม โดยการเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นจีนในวานนี้ เกิดขึ้นหลังจากดัชนีพักฐานแรงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งลดลงไปราว 4.5% ถือเป็นการร่วงลงหนักสุดรอบ 5 เดือน

นายสมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย กล่าวว่า ช่วงที่หุ้นจีนปรับฐานลงมาถือเป็นจังหวะดีที่จะเข้าซื้อสะสมต่อเนื่อง โดยตลาดหุ้นจีนมีปัจจัยบวกสนับสนุนในระยะข้างหน้าจากเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยช่วงไตรมาส 2 จีดีพี ขยายตัวได้ถึง 3.2% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ 

 “หลายฝ่ายคาดว่าจีนอาจเป็นประเทศใหญ่ประเทศเดียวที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกในปีนี้ ขณะที่นโยบายของจีนก็ยังคงผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญมูลค่าหุ้นยังไม่ได้แพงเหมือนตลาดอื่น”

นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ.แอสเซทพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนยังมีแนวโน้มที่ดีในระยะกลางถึงยาว จากการที่จีนเป็นประเทศแรกในโลกที่ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างเป็นทางการ ด้วยภาคการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่ง และระดับราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าไม่แพงมากเมื่อเทียบกับในอดีต บวกกับการใช้นโยบายผ่อนคลายทั้งในจีนและทั่วโลกทำให้ยังมีเงินเก็งกำไร ( hot money ) ที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ยังเติบโตสูง

“ตลาดหุ้นจีน จะเป็นตลาดที่มีกำไรเติบโตดีที่สุดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ การบริโภคและเทคโนโลยีเป็นหลัก”

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน “ A-Share” เนื่องจากดัชนี MSCI และ FTSE รวมหุ้นจีน A Share เข้าไปในดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ ช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้าสู่ตลาดต่อเนื่องและเพิ่มเสถียรภาพในระยะยาว และที่สำคัญราคาหุ้นน่าสนใจ และอัตราการเติบโตของกำไร( Earning Growth ) ยังเติบโตได้อยู่

“แม้ว่าจีนยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งเรื่องความขัดแย้งกับสหรัฐฯ รวมถึงโอกาสเกิดการระบาดของโควิด-19 รอบที่สอง แต่เราคาดว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีกว่ารอบแรก เนื่องจากมีประสบการณ์แล้ว รวมทั้งมีระบบการติดตามเฝ้าระวังประชากรที่ดีกว่าและการสั่งการต่างๆที่เร็วกว่า”