ทิพยประกันฯ มั่นใจตั้งบ.โฮลดิ้งในปีนี้

ทิพยประกันฯ มั่นใจตั้งบ.โฮลดิ้งในปีนี้

ทิพยประกันภัย คาดปรับโครงสร้างจัดตั้ง “ทิพยโฮลดิ้ง” แล้วเสร็จเร็วสุดภายในปีนี้ ด้าน “สมพร”ยังนั่งควบซีอีโอ มั่นใจกำไรและผลตอบแทนผู้ถือหุ้นดีขึ้น

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมประกันภัยโดยรวม มีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างกำไรจากการรับประกันภัยได้ลดลงจากการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทประกันภัยต่างๆ จึงต้องหันมาสร้างกำไรจากการลงทุนแทนเพื่อรักษาผลประกอบการรวมดังนั้น TIP จึงได้มีการศึกษาเพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท ไปเป็นรูปแบบบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ภายใต้ชื่อ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือTIPH ทุนจดทะเบียน 10,000 บาท

สำหรับการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ เพิ่มความคล่องคัวในการขยายธุรกิจ และลดข้อจำกัดด้านการลงทุน ซึ่ง TIPH จะมีการลงทุนทั้งในรูปแบบการสร้างฟันธมิตรเชิงกลยุทธ์(Stategic Allance)  การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joit Venture) หรือการควบรวมและการซื้อกิจการ (Mergers and Acquisitions) รวมทั้ง เพื่อจำกัดขอบเขตและบริหารความสี่ยงทางธุรกิจอย่างชัดเจน ทั้งธุรกิจประกัยภัยและธุรกิจอื่น และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของโครงสร้างการจัดการของวงค์กรให้เหมาะสมกับการประการประกอบธุรกิจของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ขณะนี้คณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัทเห็นชอบแล้ว และจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 .. นี้ โดยจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจํานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ซึ่งบริษัทโฮลดิ้ง จะเพิ่มทุนเป็น 600 ล้านบาทโดยยังไม่ชำระ และทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของทิพยประกันภัยเพื่อแลกกับหลักทรัพย์แบบ 1 ต่อ 1  คาดใช้กระบวนการใช้เวลาภายใน 135 วัน ทั้งนี้ คาดใช้เวลา 45 วัน ในการแลกหุ้น เมื่อเสร็จสิ้นบริษัทโฮลดิ้งจะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) แทน คาดกระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ หรือไม่เกินไตรมาสแรกปี 2564

ผู้ถือหุ้นรายเดิมใน TIP จะขึ้นไปอยู่ที่ TIPH โดย TIPH จะถือหุ้น 100% ใน TIP และจะดูแลเรื่องการลงทุนทั้งหมด ซึ่งรายได้ของ TIPH จะมาจากรายได้ของบริษัทลูกต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ โดยโครงสร้างหลักจะยังเน้นการลงทุนในธุรกิจประกันภัน  75% ได้แก่ ธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัยต่างประเทศ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประกันภัน ส่วนอีก 25% จะลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจเฮลท์เทค ธุรกิจสตาร์ทอัพ เป็นต้นต้องการสร้างอีโคซิสเต็มให้กับธูรกิจเหมือนบริษัทผิงอัน ธุรกิจประกันภัยยักษ์ใหญ่ของจีน สำหรับการลงทุนด้วยโฮลดิ้งมีความยืดหยุ่นกว่าการลงทุนโดยบริษัทประกันวินาศภัยที่ลงทุนได้เพียง 10% ในบริษัทนั้น จึงทำให้มีสิทธิเข้าไปบริหารบริษัทลูกต่างๆ ได้ และนำมาใช้ประโยชน์กับธุรกิจหลักได้ ซึ่งบริษัทโฮลดิ้งมีโอกาสสร้างผลกำไรและผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่มากขึ้นในอนาคต จากการลงทุนที่มีความหลากหลาย ทำให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยหากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งไม่ดี ยังมีขาธุรกิจอื่นๆ ที่ผยุงไว้นายสมพร กล่าว

ทั้งนี้ นายสมพร จะนั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TIPH รวมทั้งการดูแลธุรกิจประกันภัย ส่วนอื่นๆ จะมีการสรรหาผู้มีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมดำเนินการ ทั้งนี้ สัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TIP ตามลำดับ ได้แก่ บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) หรือ PTT  ถือหุ้น 13.33% ธนาคารออมสิน 11.20% ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB 10% บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) 9.99% และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ 7.37% เป็นต้น สัดส่วผู้ถือหุ้นรายย่อย( Free Float ) กว่า 54%