เข้าสู่ช่วงผันผวนผลประกอบการ, การเมือง และรอปัจจัยบวกใหม่

กลุ่มธนาคารเริ่มรายงานผลการดำเนินงานตัวแรกที่ TISCO ซึ่งรายงานกำไรไตรมาส 2/63 ที่ 1.33 พันล้านบาท (-10% QoQ และ -26% YoY) เนื่องจากสำรองหนี้เสียที่สูงกว่าคาดและรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง โดยเฉพาะจากการขายประกันผ่านธนาคาร (Bancassurance) ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอ่อนแอ โดยเฉพาะเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถ ที่หนี้เสียเพิ่มขึ้นถึง +20% QoQ และ 54% QoQ เรามีมุมมองว่า 1) นักลงทุนควรระวังความเสี่ยงจากการปรับประมาณการลงหลังประชุมนักวิเคราะห์ 2) คาดมีแรงกดดันต่อหุ้นที่ทำธุรกิจสินเชื่อและจำนำทะเบียนรถ อาทิ BAY, KKP, TCAP, MTC, SAWAD, BFIT

การเมือง: เยาวชนปลดแอกและความล่าช้าทีมเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยลบ การนัดชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อ 18 ก.ค.63 ก่อนเรียกร้องให้รัฐบาล 1) ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ 2) หยุดคุกคามประชาชน 3) ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ไม่มีกลไกสืบทอดอำนาจ ซึ่งเริ่มเกิดกระแสการชุนนุมต่อเนื่อง อาทิ เชียงใหม่จะไม่ทน (19 ก.ค.), อีสานสิบ่ทน (22 ก.ค.) และคาดว่าจะเกิดในจังหวัดอื่นๆต่อเนื่อง เหมือนช่วงการชุมนุมก.พ.63 ขณะที่ความล่าช้าของการประกาศทีมเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงการ ปฎิเสธการเข้าร่วมทีมเศรษฐกิจหลายรายชื่อ จะเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของหุ้นไทย

การหารือกองทุนเยียวยาเศรษฐกิจยุโรปล่าช้า ผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) อาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการจัดตั้งกองทุนเยียวยาเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากชาติสมาชิกยังมีความขัดแย้งกันอย่างมากเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว บางประเทศมองว่าวงเงินช่วยเหลือมีขนาดใหญ่เกินไป และไม่เห็นด้วยกับการให้เปล่า แต่ควรเป็นในรูปแบบเงินกู้ ทำให้ความช่วยเหลือล่าช้า และอาจเป็นลบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศที่มีหนี้สาธารณะในระดับสูง

ภาพรวมกลยุทธ์ ผลประกอบการหุ้นสถาบันการเงินสองตัวแรก KTC และ TISCO ส่งสัญญาณลบต่อภาพหนี้เสีย และกดดันภาพหุ้นเช่าซื้อกับจำนำทะเบียนรถ รวมถึงปัจจัยการเมืองเข้ามากดดันตลาด การเก็งกำไรจึงยังเน้นเลือกหุ้นรายตัว ในกลุ่มที่มีแนวโน้มจากนี้ดี (อาหาร อสังหาริมทรัพย์) ควบคู่ไปกับกลุ่มปลอดภัย/มั่นคง (สื่อสาร สาธารณูปโภค) โดยมีกรอบการเก็งกำไรระยะสั้น 1340-1380 จุด  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF*, STGT*, TPCH*

แนวรับ 1,340 จุด / แนวต้าน : 1,375-1,380 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

IMF คาดโควิดฉุด GDP สหรัฐฯ -6.6% yoy – IMF คาด เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวลง 6.6% yoy ในปี 2563 รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้าที่ -8% yoy

คลังเร่งออมสินปล่อยซอฟต์โลนดอกเบี้ยต่ำ – กระทรวงการคลังมอบหมายให้ธนาคารออมสินเร่งดำเนินการสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 0.01% เพื่อให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 135,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2% และให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อโดยตรงวงเงินอีก 15,000 ล้านบาท วงเงินกู้รายละไม่เกิน 20 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 2% เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยยื่นได้ถึง 31 ธ.ค. 2563

สถานการณ์โควิด – ผู้ติดเชื้อทั้งโลก 14.6 ล้านราย อย่างไรก็ตามอัตราการเสียชีวิตของทั้งโลกยังอยู่ที่ระดับ 5 พันราย ขณะที่สหรัฐฯ ยังสามารถควบคุมให้ต่ำกว่า 1 พันราย

พลังงานทดแทน - จับตาประมูลไฟฟ้าขยะ บวกต่อการเก็งกำไร ACE, SUPER, TPCH, PSTC, BWG

ประเด็นติดตาม: 23 ก.ค. – US Initial Jobless Claim, 24 ก.ค. – ครม. พิจารณามาตรการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว/ 9 ส.ค. – เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)