กลุ่มนักศึกษา-​ชาวเชียงใหม่​ รวมตัวก่อแฟลช​ม็อบข่วงประตูท่าแพ

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่​ 19 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีกลุ่มประชาชน นักเรียน นักศึกษา  มาชุมนุมกันไม่ต่ำกว่า 500 คน เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาฯ  และต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  เพื่อให้เป็นของประชาชนโดยแท้จริง  ซึ่ง​ข้อเรียกร้อง​ดังกล่าว  คล้ายคลึง​กับการชุมนุม​ที่กรุงเทพ​มหานคร​เมื่อวานนี้

ในการชุมนุม​ มีการถือป้ายชุมนุม การชูมือสามนิ้ว และการเขียนข้อความเพื่อปลดแอกการเมืองไทย ในระหว่างการชุมนุมได้มี พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ออกมาประกาศเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมเรื่องของการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และขอร้องมิให้ชุมนุม ซึ่งหลังจากที่มีการประกาศ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้โห่ร้องไม่พอใจ และชุมนุมกันต่อ ทั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยในจุดที่มีการชุมนุมอีกด้วย

ด้านนายธนาธร วิทยเบญจางค์ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เปิดเผยว่า  ตนเรียกร้องให้ทุกคนออกมาร่วมชุมนุมกัน โดยตนใช้ชื่อกลุ่ม “พรรควิฬาร์” ที่มาจากสัญลักษณ์เป็นแมวดำ  โดยมีกลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วม  จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จังหวัดลำปาง , มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่  ที่มาชุมนุมในวันนี้ได้ทำลักษณะคล้ายกับแฟลชม็อบ ประมาณ 1 ชั่วโมง  ไม่เกินชั่วโมงครึ่ง  มีการปราศัยของคนที่ต้องการมีส่วนร่วม

การชุมนุมในวันนี้ต้องการแสดงพลังให้ทางผู้มีอำนาจ ให้รัฐบาลได้รู้ว่าถึงเวลาที่ประชาชนที่จะต้องลุกมาไล่เผด็จการออกไปและจัดตั้ง ก่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ขึ้นมา ซึ่งข้อเรียกร้องใกล้เคียงกับของกรุงเทพฯ แต่ทางจังหวัดเชียงใหม่ ขอเน้นเรื่องการกระจายอำนาจสู่ภูมิภาค ให้มีการจัดการตนเองให้มากขึ้น และเรื่องปัญหาโควิด-19 ปัญหาไฟป่า และปัญหาอื่นๆ ที่ไม่เห็นค่า ในอนาคตหากมีโอกาส และประชาชนทุกคนอยากมีงานต่อ อาจจะมีการจัดหรือเข้าไปร่วมกับคนที่จัดต่อไป ส่วนการเดินทางไปร่วมกับการชุมนุมที่ส่วนกลางในอีก 2 สัปดาห์ ตนอาจจะไปร่วม สำหรับบุคคลอื่นก็อยากเชิญชวนไปร่วมด้วยกัน

สำหรับในภาพของประชาชนทุกคนต้องออกมาร่วมช่วยกัน ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องประเมินตนเอง ประชาชนลำบากยากแค้น ขนาดนี้แล้ว รัฐบาลต้องยุบแล้วเลือกตั้งใหม่ เลิกคุกคามประชาชน และหากการชุมนุมที่กรุงเทพฯ มีความสอดคล้องกับชาวเชียงใหม่ก็จะมีการจัดกิจกรรมขึ้นมาอีก ส่วนเรื่องการจัดชุมนุมทุกอาทิตย์หรือไม่ ก็ต้องรอฟังเสียงเรียกร้องจากประชาชนชาวเชียงใหม่อีกครั้งต่อไป