สารพัดวิถีพึ่งตนเอง 'สวนผักหฤหรรษ์ปันยิ้ม'

สารพัดวิถีพึ่งตนเอง 'สวนผักหฤหรรษ์ปันยิ้ม'

เริ่มจากปลูกผัก ทำสวนสมุนไพร จากนั้นเริ่มทำกิจกรรมอื่นๆ โดยใช้ศิลปะ ดนตรี ธรรมะ วิทยาศาสตร์และอาหาร มาเชื่อมร้อยกับสวนผัก 

แม้โลกจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน คนก็ยังอยากใช้สองมือทำโน้น ทำนี่ พึ่งตนเอง ซึ่งเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งในชีวิต

ไม่ว่าคนรุ่นไหน หากรู้จักนำโซเชียลเน็ตเวิร์คมาเชื่อมร้อยสิ่งที่ทำและคิด ก็จะทำให้คนทั้งโลกรู้จักพวกเขามากขึ้น

เหมือนเช่น จิตรา หิรัญพฤกษ์ หรือครูโฉ ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นวิทยากรสอนเด็กๆ ทั้งเรื่องนิทาน ละคร และค่ายอนุรักษ์ธรรมชาติ แล้ววันหนึ่งเธอกลับบ้าน มาทำตามความฝันบนพื้นที่เล็กๆ 1 ไร่ที่จังหวัดปทุมธานี  

เธอตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า สวนผักหฤหรรษ์ปันยิ้ม เริ่มปลูกผัก ทำสวนสมุนไพร จากนั้นเริ่มทำกิจกรรม โดยชวนเพื่อนๆ ที่มีความถนัดแต่ละด้านมาทำงาน โดยใช้ศิลปะ ดนตรี ธรรมะ วิทยาศาสตร์และอาหาร มาเชื่อมร้อยกับสวนผัก 

 “กลับมาบ้านที่ปทุมธานี ไม่มีเงินเดือน ก็เลยมาทำเรื่องการปลูกผักกินเอง รายได้ไม่เยอะ แต่อยากใช้ชีวิตพึ่งตนเองให้มากที่สุด เบียดเบือนธรรมชาติให้น้อยที่สุด” ครูโฉ เล่า

แม้ปีแรกๆ จะมีรายได้ไม่พอเพียงกับการดำเนินชีวิต เธอก็ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองและตั้งใจไว้ ค่อยๆ ก้าวทีละก้าว ผ่านไป 3 ปีเริ่มพึ่งตนเองได้ และเมื่อเข้าปีที่ 5 เริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น เธอบอกว่า สามารถอยู่ได้ เพราะได้ใช้วิชาในช่วงที่เคยทำละคร ค่ายเยาวชน และค่ายอนุรักษ์ธรรมชาติมาใช้ในกิจกรรม

159504626911

“ก่อนหน้านี้ก็เคยทำรายการวิทยุ นิทานยิ้มละไมกับเพื่อนๆ ไม่เคยทำงานในระบบ เมื่อก่อนทำงานอยู่กับกลุ่มโลกทัศน์สโมสร ก็เลยเอาสิ่งที่ตัวเราเคยทำมาใช้ วันหยุดก็ชวนเด็กๆ แถวบ้านมาทำกิจกรรม จนเมื่อได้คุยกับครูที่โรงเรียนในชุมชน จึงถูกชวนมาเป็นครูสอนนิทานและศิลปะที่โรงเรียน  และเราก็ได้ออกแบบวิชาศิลปะเพื่อการพึ่งตัวเอง

อาศัยว่าเคยทำงานด้านจัดการความรู้กับครูและเด็กๆ ในชุมชนมาก่อน จึงไม่ใช่เรืื่องยากสำหรับเธอ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาและการพัฒนาที่ยั่งยืน เธอเคยทำงานกับปราชญ์ชาวบ้านมาเยอะ

“ชีวิตที่ผ่านมาเหมือนการสะสมการพึ่งตนเอง พอกลับมาอยู่บ้าน เริ่มปลูกต้นไม้ ปลูกผัก ทำสวนสมุนไพร เคยเรียนเรื่องการแพทย์ทางเลือกมาบ้างก็เอามาใช้ และหัดทำอาหารรูปแบบต่างๆ และใช้กระบวนการเรียนรู้เรื่องดนตรีและศิลปะมาอบรมเชิงปฏิบัติการ”

เธอยอมรับว่า ปีแรกๆ ที่ไม่มีเงินเดือนประจำ การหมกมุ่นกับความฝัน ทำให้ไม่สนองตอบเศรษฐกิจตัวเอง ตอนหลังก็เลยคิดได้ว่า ต้องเอาจุดแข็งของเรามาใช้

“ต้องดึงศักยภาพเดิมๆ ในเรื่องการจัดการเรียนรู้มาใช้ ต้องเปิดตัวกับเพื่อนและคนนอก เพราะเรามีความเชื่อมั่นเรื่องการพึ่งตนเอง  แต่พอมาทำเอง มันไม่ลงตัว เพราะเราไม่ใช่เกษตรกร ทั้งๆ ที่ใช้จ่ายน้อยมาก แต่ไม่พอใช้  ก็ได้คิด ชีวิตคนเราไม่ใช่ฝันอย่างเดียว ต้องอยู่บนความเป็นจริง เมื่อก่อนเราทำงานกับคนด้อยโอกาส ก็ต้องคิดใหม่ว่า คนเมืองก็สนใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมด้วย ”

เธอ พยายามพึ่งตนเองให้มากที่สุด และเรียนรู้ที่มาที่ไปของวัตถุดิบที่ใช้

“การพึ่งตนเองไม่ใช่ว่า เราตัดขาดจากคนอื่น ทำเองทุกอย่างไม่สัมพันธ์กับผู้อื่น อย่างการปลูกพืชผักกินเอง เมื่อลงมือทำ ก็ทำให้เข้าใจเรื่องฤดูกาล อย่างกะหล่ำปลีไม่ได้มีทั้งปี วิถีการพึ่งตนเอง ทำให้เรารู้จักเลือกอยู่ เลือกกินมากขึ้น เราทำแบบนี้จนที่ดินหนึ่งไร่ เข้าโครงการสวนผักคนเมือง ช่วงแรกเราก็ปลูกต้นไม้ใหญ่ เมื่อให้ร่มเงาแล้ว ก็เอาพืชผักสมุนไพรที่อยู่ในร่มมาปลูก”

159504630791

(ครูโฉของเด็กๆ )

เธอเชื่อว่า ปัญหาหลายๆ อย่าง ต้องแก้ด้วยการเรียนรู้ จึงก็อยากปลูกฝังให้เด็กๆ ได้เติบโตในทางที่ดี

“เราสอนเด็กๆ เพาะต้นอ่อน พวกเขาทำเสร็จ ก็เอากลับไปดูแลต่อที่บ้าน ทำให้เด็กๆ รู้ว่าทำไมต้องปลูกผัก เข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ต้นอ่อนใช้เวลาเพาะปลูกไม่นาน เมื่อเพาะเป็นแล้วก็ต้องเรียนรู้เรื่องการกิน ให้เด็กๆ หัดทำอาหาร ทำลาบต้นอ่อน จากนั้นก็มีผู้ปกครองพาเด็กๆ มาเรียนรู้ เด็กชุมชนก็ได้เรียนรู้การเข้าสังคม เด็กพวกนี้ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าปฏิสัมพันธ์ เราก็ใช้ดนตรีและจังหวะกระตุ้นให้สัมพันธ์ซึ่งกันและกัน”

ความฝันที่ตั้งต้นไว้ว่า อยากใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ มีเด็กๆ มาทำกิจกรรม มีฐานการเรียนรู้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง โดยช่วงปีนี้เธอหันมาทำงานกับเด็กเล็กมากขึ้น

“ถ้าคนรุ่นใหม่อยากทำแบบนี้บ้าง สิ่งที่ควรทำ คือ ความรัก ต้องหาจุดร่วมให้เจอ อาจมีการปะทะทางความคิดระหว่างครอบครัวที่มีความคาดหวังบ้าง แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นไม่โอนอ่อน เราก็ต้องหาจุดที่เข้ากันให้ได้ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง ทำแบบนี้ไม่ได้มีเงินเยอะ แต่เราทำให้ครอบครัวเห็นว่า มีคนข้างนอกมาเรียนรู้กับเรามากขึ้น”

เธอมีบทพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้เธอจะตัวเล็ก แต่สุขภาพแข็งแรง  คนก็เลยอยากรู้ว่า ถ้าอยากสุขภาพดี ต้องกินและใช้สมุนไพรอะไร

“สวนผักที่นีี่เป็นศูนย์การเรียนรู้ของเรา จริงๆ แล้วไม่จำกัดเฉพาะเด็ก เราอยากให้เด็กไปสื่อสารกับผู้ปกครอง เรามีคอร์สอื่นๆด้วย อาทิ การทำสบู่ธรรมชาติ ,ผ้ามัดย้อม ,การทำเครื่องปรุงอาหารและยาอายุวัฒนะ อาทิ การทำน้ำส้มสายชู ซีอิ๋ว หรือยาอายุวัฒนะพวกมะกรูดแก้ไอ”

 ...................................

ดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ค สวนผักหฤหรรษ์ปันยิ้่ม