สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 13-17 กรกฎาคม 2563

สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 13-17 กรกฎาคม 2563

เงินบาททยอยอ่อนค่า แต่หุ้นไทยดีดตัวขึ้นได้ช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงซื้อจากต่างชาติ

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศ ทั้งความกังวลต่อความเสี่ยงของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในประเทศ และปัจจัยทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ตามปัจจัยทางเทคนิค หลังเงินบาทอ่อนค่าผ่านระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ไปได้ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งที่ระดับ 31.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ ช่วงปลายสัปดาห์ ก่อนฟื้นกลับมาบางส่วน แต่ภาพรวมเงินบาทยังเป็นทิศทางอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย หลังสหรัฐฯ-จีนมีประเด็นตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น

- ในวันศุกร์ (17 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.72 เทียบกับระดับ 31.29 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (10 ก.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (20-24 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.50-31.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ  โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ของไทยและต่างประเทศ ท่าทีระหว่างสหรัฐฯ-จีน สัญญาณฟันด์โฟลว์ และข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย. ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประจำเดือนก.ค. ของธนาคารกลางจีน และดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนก.ค. ของหลายประเทศชั้นนำด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,359.58 จุด เพิ่มขึ้น 0.67% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 55,044.27 ล้านบาท ลดลง 22.75% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.14% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 302.33 จุด      

- ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อความเสี่ยงการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองในประเทศ ก่อนจะดีดตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ขานรับความหวังต่อการพัฒนายาและวัคซีนรักษาโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ย่อตัวลงในเวลาต่อมา ท่ามกลางสัญญาณตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ประกอบกับตลาดยังคาดหวังว่าทางการประเทศต่างๆ จะออกมาตรการเพื่อเยียวยาผลกระทบของโควิด-19

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (20-24 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,345 และ 1,335 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,400 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับครม. รวมถึงประเด็นขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่และยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนก.ค. (เบื้องต้น) ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI Composite เดือนก.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น บันทึกการประชุมของ BOJ ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนก.ค. ของจีน