‘ทรัมป์’ เข้าคุมข้อมูลโควิดแทน CDC ส่อเค้าฉวยประโยชน์การเมือง

‘ทรัมป์’ เข้าคุมข้อมูลโควิดแทน CDC ส่อเค้าฉวยประโยชน์การเมือง

“รัฐบาลทรัมป์” ควบคุมข้อมูลผู้ป่วย-19 ในสหรัฐ แทนศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ส่อเค้าฉวยโอกาสการเมือง ปกปิดข้อมูล เลือกปฏิบัติเหยียดสีผิว และเชื้อชาติเข้าถึงระบบรักษา

รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้าควบคุมข้อมูลผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่รวบรวมจากโรงพยาบาลทั่วประเทศ แทนศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ทำให้ผู้เชี่ยวชาญวิตกกังวลว่า ข้อมูลจะถูกนำไปใช้แสวงประโยชน์ทางการเมือง

ขณะที่โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) คนปัจจุบัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยจัดระเบียบข้อมูลได้ดีขึ้น ลดภาระการรายงาน และได้รับข้อมูลที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้กระทรวงสามารถจัดสรรทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดได้อย่างเหมาะสม

ด้าน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์ว่า นับจากวันนี้จะปรับเปลี่ยนการรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 จากโรงพยาบาลต่างๆ โดยให้ส่งข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่ต้องผ่าน CDC อีกต่อไปแล้ว

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ระบบรวบรวมข้อมูลใหม่ที่มีความรวดเร็วและสมบูรณ์ครบถ้วน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และ CDC ที่เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงบริการสุขภาพและมนุษย์ ก็จะยังมีส่วนร่วมในปฏิบัติการรับมือโรคโควิด-19 ของรัฐบาล เพียงแต่ไม่ได้ควบคุมข้อมูลอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ CDC รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยและลักษณะอาการจากเครือข่ายโรงพยาบาล 3,000 แห่ง และวิเคราะห์ข้อมูลก่อนรายงานกลับไปยังเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นและระดับรัฐ

การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันครั้งนี้ทำให้เกิดความกังวลแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เพราะที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวมักไม่ให้ความสำคัญกับคำแนะนำตามหลักวิทยาศาสตร์ของ CDC พร้อมกับเตือนว่าการกระทำครั้งนี้เป็นการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองอย่างไม่ปกติ 

บุคลากรด้านสาธารณสุขและสมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครต แสดงความวิตกว่า รัฐบาลทรัมป์อาจมุ่งบิดเบือนข้อมูลจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง พร้อมทั้งตั้งข้อคำถามว่า ทำไมจึงมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่การระบาดกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ รวมถึงทอม ฟรีดเดน อดีตผู้อำนวยการ CDC บอกว่า ระบบการรายงานใหม่จะมีความซับซ้อนยุ่งยาก พร้อมกับตำหนิว่ารัฐบาลตัดสินใจดำเนินการโดยไม่ปรึกษาเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและท้องถิ่นก่อน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยส่วนใหญ่ มองว่า การตัดสินใจของรัฐบาลส่งผลกระทบต่อความโปร่งใส อาจมีการปกปิดข้อมูลเรื่องความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติและสีผิวในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และอาจปิดกั้นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้เพื่อประกอบการพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด-19 ด้วย