'มรกต' นำทัพ ทีโอที เปลี่ยน 'คู่แข่ง' เป็น 'คู่ค้า'

'มรกต' นำทัพ ทีโอที เปลี่ยน 'คู่แข่ง' เป็น 'คู่ค้า'

บมจ.ทีโอที ถือเป็นเสาหลักในด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แม้ที่ผ่านมาจะโดนค่อนขอดว่าเป็นเสือนอนกิน หากแต่วันนี้รัฐวิสาหกิจรายใหญ่ของประเทศ กำลังปรับตัวรับยุคใหม่อย่างแข็งขัน

จากโควิด-19 เริ่มแสดงผลกระทบต่อลูกค้าของทีโอทีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดองค์กร การลดต้นทุน ทำให้ทีโอทีต้องดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าด้วย เช่น การยกเว้นค่าเช่าร้านในทีโอที การให้ส่วนลดหรือมีโปรโมชันช่วยลูกค้า ดังนั้นทีโอทีต้องยอมรับความจริงและมีการปรับประมาณการณ์กำไรปีนี้ใหม่จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรกว่า 1,000 ล้านบาท เหลือกำไรหลัก 100 ล้านบาท หรือหากจะขาดทุนก็ไม่เกินหลัก 100 ล้านบาท เช่นกัน

เปลี่ยน“คู่แข่ง”เป็น“คู่ค้า”

เมื่อมองเห็นว่าผลกระทบจากโควิด-19 น่าจะยังไม่จบเพราะไม่รู้ว่าจะมีวัคซีนเมื่อไหร่ ทีโอทีก็ต้องยอมรับว่ารายได้ที่คาดว่าจะได้ต้องหายไปอย่างแน่นอนจากการที่ลูกค้าเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว ดังนั้นจึงต้องหาทางสร้างรายได้ใหม่ที่คาดว่าจะทำได้ ควบคู่กับการลดต้นทุนด้วยการลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่จำเป็นน้อยที่สุด 15% และพยายามลดหรือหาข้อยุติคดีและข้อพิพาทด้วยการจับมือกับคู่แข่งให้กลายเป็นพันธมิตร ธุรกิจที่ไม่สามารถแข่งกับเอกชนได้ ก็เปลี่ยนเป็นการจับมือเป็นพันธมิตรและอาสาเป็นตัวกลางในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานกลางเพื่อให้มีการใช้งานร่วมกัน ลดการลงทุนซ้ำซ้อน

ทีโอที มีนโยบายและเป้าหมายการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ที่ต้องเร่งดำเนินการอยู่ คือการสร้างรายได้ ด้วยการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งทางด้านบริการ ไม่ว่าจะเป็น TOT Fixed Line, TOT Mobile, TOT Fiber 2U และการเพิ่มรายได้จากท่อร้อยสาย โดยเร่งรัดให้ผู้ประกอบการนำสายเคเบิลลงดินตามนโยบายรัฐ ซึ่ง ทีโอที มีเป้าหมายที่จะนำสายสื่อสารลงททอร้อยสายใต้ดินจำนวน 12 เส้นทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครฯ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค. 2563

ลดไซส์องค์กรก่อนควบรวม

นายมรกต กล่าวอีกว่า แผนการบริหารของทีโอที นอกจากนี้คือ การพัฒนาองค์กร ในการควบรวมกิจการกับกสทฯเป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ เอ็นที ซึ่งต้องผลักดันให้สามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเอ็นทีได้ภายใน ม.ค. 2564 ตามมติคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) ด้วยการสร้างความสามัคคี ปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความเสมอภาค และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ให้กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของพนักงาน และคงสิทธิประโยชน์ขององค์กรตามกฎหมายให้มากที่สุด

นอกจากนี้ ที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การพัฒนาบริการ เช่น การให้บริการ 5จี โดยเริ่มให้บริการ Fixed Wireless Broadband ในพื้นที่ทดสอบ เช่นอาคารสูง ในพื้นที่ห่างไกลที่มีต้นทุนการวางสายสูง และการพัฒนาบริการดิจิทัลด้วยการเพิ่มความสามารถ และการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ดาวเทียมวงโคจรต่ำ เพื่อรองรับการใช้เทคโนโลยี 5จี ทำงานเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และด้วยศักยภาพของ ทีโอที ที่มีความพร้อมในการก้าวเป็นผู้นำเทคโนโลยีอวกาศ 

“ได้เตรียมพร้อมในการพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอวกาศและการเจรจากับพันธมิตรธุรกิจระบบดาวเทียม เพื่อร่วมมือกันพัฒนาเครือข่ายระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับคนไทยทั้งประเทศในการปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสอดคล้องกับวิถีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”