ตลาดหุ้นไทยวันนี้ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

บล.กรุงศรี คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวอ่อนตัวทดสอบ 1,340 จุดก่อนจะสลับดีดตัว เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นลงทุน นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ประกอบกับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐยังอยู่ในระดับที่สูง

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กรุงศรี วานนี้ (16 ก.ค.) SET Index ลดลง 6 จุด (-0.48%) ปิดที่ระดับ 1,348 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท ดัชนีปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศตามความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายคว่ำบาตรจีนและลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารเพื่อยุติการให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกง ขณะที่จีนประกาศจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้องค์กรและบุคลากรของสหรัฐเช่นกัน ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,979  ล้านบาท  แต่ Net Long TFEX 2,039 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,566 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (17 ก.ค.) เรามีมุมมองเป็นกลาง-ลบคาด SET อ่อนตัวทดสอบ 1,340 จุดก่อนจะสลับดีดตัว เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังสหรัฐจำกัดการออกวีซ่าให้กับพนักงานของบริษัทด้านเทคโนโลยีของจีนโดยอ้างเหตุผลว่าบริษัทเหล่านี้มีส่วนสนับสนุนรัฐบาลจีนในการละเมิดสิทธิมนุษยชน ประกอบกับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 1 ล้านรายซึ่งเป็นแรงกดดันต่อดัชนี อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มที่มีข่าวเฉพาะตัวรวมถึงกลุ่มที่คาดการณ์งบ 2Q20 เติบโตเข้ามาช่วยหนุนให้ดัชนีสลับดีดตัวขึ้น

** ติดตามการประกาศงบ 2Q20 ของกลุ่มธนาคารและไฟแนนท์ที่คาดว่าจะลดลงทั้ง QoQ และ YoY

ด้านกลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy กลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT TFG ASIAN) และ กลุ่มอิเล็ค (KCE DELTA HANA SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  (TOP PTTGC SPRC SCC BGRIM CKP CPF TU TASCO STA STGT SPALI PRM PTL AJ STARK CBG TQM)

หุ้นแนะนำวันนี้ TU (ปิด 13.9 ซื้อ/เป้า 15.3) ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโร ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q20 คาดมีกำไรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%qoq (ดีกว่าที่เคยคาดไว้ก่อนหน้าที่ 900-1000 ล้านบาท) นอกจากนี้ราคายังมี downside จำกัด เพราะมี P/E ต่ำเพียง 13 เท่า คิดเป็น -2SD

PTTGC (ปิด 47 ซื้อ/เป้า 50) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว, คลาย lockdown ช่วยเพิ่มดีมานด์ทั้งฝั่งปิโตรฯและโรงกลั่น และยังได้เปรียบต้นทุนเพราะ PTTGC ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบราคาจะปรับขึ้นช้ากว่าคู่แข่งที่ใช้นาฟทาซึ่งราคาจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันทันที