ประชาธิปัตย์ ระอุรอบใหม่ ส.ส.จี้ทบทวนจุดยืน พรรคร่วมรัฐบาล

เกิดแรงกระเพื่อมขึ้นอีกระลอกสำหรับพรรคประชาธิปัตย์โดยล่าสุดเป็นกรณีของนายพายุ เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัครส.ส.ชลบุ รีพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีกระแสข่าวระบุว่ามาจากความขัดแย้งกับนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งดูแลภาคกลางนั้น

ล่าสุดนายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาคอีสานชี้แจงว่า การลาออกของนายพายุไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆแต่เกิดจากการที่นายพายุไปร่วมกันก่อตั้งกลุ่มเชนจ์ชลบุรีเพื่อส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและสมาชิกสจ.ในทุกเขตของชลบุรี

ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าวเกิดจากการรวมตัวของนักการเมืองระดับชาติและท้องถิ่นจากหลายพรรคการเมืองเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพของกลุ่มและปลอดจากความเกี่ยวข้องกับทุกพรรคการเมืองของกลุ่มทำให้นายพายุซึ่งเป็นประธานยุทธศาสตร์ของกลุ่มจึงได้ขออนุญาตลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แต่ยังคงเป็นคณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี(จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์)และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (เฉลิมชัย ศรีอ่อน) เหมือนเดิม

“ส่วนเรื่องที่จะกลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกหรือไม่เมื่อไหร่นั้นนายพายุได้บอกกับผมว่าขอเวลาปรึกษาหารือกับสมาชิกของกลุ่มเชนจ์ชลบุรีก่อนรวมทั้งขณะนี้เมื่อได้รับเลือกตั้งเป็นประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูจังหวัดชลบุรีพร้อมทั้งกำลังก่อตั้งทีมบาสเกตบอลในลีกสูงสุดของประเทศจึงขอเวลาทำงานให้ในพื้นที่สักระยะหนึ่งอย่างไรก็ตามนายพายุ ก็ยังเดินทางมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ”รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

จี้ปชป.ทบทวนจุดยืน

วันเดียวกันนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในการประชุมรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรคที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่าผู้ใหญ่ในพรรคถามว่าตนจบหรือไม่ ขอยืนยันไว้ตรงนี้ว่าการประชุมที่ผ่านมาไม่มีใครถามตนแบบนั้น ในวันที่ 19 ก.ค.ที่จะเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตนจะเสนอให้ที่ประชุมหาจุดยืนของพรรค และทบทวนอุดมการณ์ว่า ยังเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีหลายคำพูดที่ทิ่มแทงคนของพรรคประชาธิปัตย์รวมถึงตัวตนด้วยเช่น เขาบอกว่าพรรคดีแต่พูด เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ประชาธิปัตย์คบยากเอาตัวรอด ประชาธิปัตย์ไม่มีเพื่อน เป็นต้น ดังนั้น ตนก็จะเสนอแนะวิธีการว่าควรจะทำอย่างไร

“เราเคยถูกกล่าวหาว่าจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร จริงหรือเท็จยังไม่มีคำตอบสังคมยังกังขา ว่าพรรคเปลี่ยนอุดมการณ์ยืนเข้าข้างทหาร เมื่อก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ประกาศชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่ามาจากการปฏิวัติการสืบทอดอำนาจ แต่สุดท้ายพรรคก็กลับไปร่วมรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นการตอกย้ำและสร้างความสับสนให้กับสังคม” นายอันวาร์ กล่าว

อย่างไรก็ดีคงไม่ผิดถ้าพรรคจะมีมติแสดงจุดยืนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะสนับสนุนทหารหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องมีเหตุผลสนับสนุนที่ดีและชัดเจน ตนก็เชื่อว่าประชาชนจะแยกแยะได้ และตัดสินใจเองได้ด้วยเหตุและผล ทั้งนี้ ในวันประชุมที่ 19 ก.ค.ที่จะถึง ตนจะอธิบายให้ที่ประชุมฟังถึงเหตุที่พรรคตกต่ำถึงขีดสุด และควรจะต้องหาทางพิจารณาแก้ไข ก่อนที่ป้ายชื่อของพรรคจะค่อยๆ ถูกลบออกจากเวทีการเมือง สุดท้ายหวังว่าการประชุมที่จะเกิดขึ้นจะเป็นการประชุมในรูปแบบใหม่ ที่นำเสนอแนวทางใหม่ๆ ให้กับสมาชิกทั้งประเทศคิดใหม่ ว่าในศตวรรษที่ 21 เราจะอยู่แบบคน Yesterday หรือคนแบบ Tomorrow

 

สมัครเลือกตั้งซ่อมปากน้ำคึกคัก

ขณะที่ความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งซ่อมเขต5จ.สมุทรปราการ บรรยากาศการเปิดรับสมัครวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก โดยพรรคการเมืองใหญ่ต่างเข้ามาทำการสมัครที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางบ่อกันอย่างพร้อมหน้า 

โดยพรรคเพื่อไทยนำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคได้พานางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ มาทำการสมัคร พร้อมกับจับสลากได้เบอร์ผู้สมัครหมายเลข 3 ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นางสลิลทิพย์ ได้อันดับสอง 33,007คะแนน 

ด้านพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นำนายอิศราวุธ ณ น่าน มาทำการสมัครเช่นกัน และจับสลากหมายเลขผู้สมัครได้หมายเลข 2 โดยนายอิศราวุธ เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรคก้าวไกล ซึ่งเดิมทีการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคอนาคตใหม่ขณะนั้นนายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ จากพรรคพรรคอนาคตใหม่ ได้ 31,430คะแนน โดยก่อนที่นายตรัยวรรธน์ยุติการทำงานกับพรรคก้าวไกลในเวลาต่อมา

ส่วนเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างพรรคพลังประชารัฐยังคงส่งนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ที่โดนใบเหลืองลงสมัครอีกครั้งและได้เบอร์ผู้สมัครหมายเลข 4 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานายกรุงศรีวิไล ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับที่หนึ่ง 41,745 คะแนน

“พิธา” มั่นใจปักธงสำเร็จ

ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราลงพื้นที่และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนมาตลอด ก็ถือเป็นโอกาสดีที่พี่น้องประชาชนจะมีโอกาสได้เลือกตั้งอีกครั้ง เลือกเบอร์ 2 เลือกพรรคก้าวไกล ให้คนรุ่นใหม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงสมุทรปราการ และแม้จะเป็นการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคก้าวไกลหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่มีความมั่นใจเต็มร้อย เพราะตนเองเดินวันละ 2 หมื่นก้าว เราตั้งใจจะเจอคนนับแสนเพื่อรับฟังปัญหา โดยเฉพาะช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตโควิดเช่นนี้ ที่ตอนนี้หลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากความหละหลวมของรัฐบาลไปแล้ว แต่หวังว่าสมุทรปราการจะไม่เป็นเช่นนั้น

“ที่ผ่านมาในช่วงโควิด ผมผูกพันกับสมุทรปราการมาก เพราะได้มีโอกาสร่วมเยี่ยมเยียนพี่น้องในสมุทรปราการกับ ส.ส.วุฒินันท์ บุญชู​ ที่โรงพยาบาล เยี่ยมคนทำงานที่ต้องตกงานหรือถูกลดงานลง สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมั่นใจว่าคุณพีท อิศราวุธ จะเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวสมุทรปราการ ดังนั้นหากกาให้คุณพีทคนเดียว ก็จะได้พวกเราทั้ง 54 คนที่เหลือมาช่วยกันทำงาน ที่ผ่านมาประเทศไทยและสมุทรปราการถูกแช่แข็งมานานมากพอแล้ว ถึงเวลาแล้วที่สมุทรปราการต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลง” นายพิธา กล่าว