จ่อผุดเฟส 2 'เราเที่ยวด้วยกัน' กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง

จ่อผุดเฟส 2 'เราเที่ยวด้วยกัน' กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง

“พิพัฒน์” เผยนายกฯสั่งกระทรวงท่องเที่ยวฯผุดเฟส 2 ของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง-ชุมชน-วันธรรมดา ปิ๊งแนวคิดเพิ่มอัตรารัฐช่วยจ่ายจาก 40% เป็น 60% หวังกระจายรายได้ไทยเที่ยวไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังจากวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมารัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการเที่ยวปันสุข ภายใต้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ที่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เป็นวันแรก มีผู้มาลงทะเบียนแล้วเกือบ 2 ล้านคน ถือเป็นยอดที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมาย โดยจะมีการเปิดให้จองห้องพักวันแรกตั้งแต่ 18 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

แม้กระทรวงการท่องเที่ยวฯคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนเข้าจองห้องพักเต็มโควตา 5 ล้านคืน แต่ประเมินว่าน่าจะมีวงเงินของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเหลือประมาณ 50% หรือคิดเป็น 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 9 พันล้านบาทสำหรับรัฐช่วยจ่ายค่าที่พักกับค่าอาหารและสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนอีก 1 พันล้านบาทเป็นค่ารัฐช่วยจ่ายตั๋วเครื่องบิน

จึงมีแนวคิดเบื้องต้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายเฟส 2 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและจองห้องพักในเมืองรอง 55 จังหวัด ชุมชนท่องเที่ยว และกระตุ้นการเดินทางในวันธรรมดา ด้วยการเพิ่มอัตรารัฐช่วยจ่ายค่าที่พักและค่าอาหารกับสถานที่ท่องเที่ยวเป็น 60% จากเฟส 1 ที่รัฐช่วยจ่ายในอัตรา 40%

“คาดว่าเฟส 1 ของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเมืองหลักมากกว่าเมืองรอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปช่วยกันคิดหาวิธีจัดแพ็คเกจกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนด้วยโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อให้ผู้ประกอบการในเมืองรองและชุมชน เช่น โรงแรมขนาดเล็ก โฮมสเตย์ และโฮมลอดจ์ซึ่งมีค่าห้องถูกกว่าในเมืองหลักมาก ได้อานิสงส์จากเม็ดเงินมาตรการนี้ด้วย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ราวต้นเดือน ส.ค.นี้ หลังประเมินกระแสการจองของเฟสแรก และอาจมีเฟสถัดๆ ไปอีกหากวงเงินยังเหลือ”

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากวานนี้ (16 ก.ค.) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้จัดพิธีมอบมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทยประจำปี 2563 หรือ CBT Thailand Standard  2020 ตามเป้าหมายมุ่งยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นไปตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) แก่ 19 ชุมชนในปีนี้ ทางกระทรวงฯเตรียมผลักดันให้ชุมชนเหล่านี้เป็นหนึ่งในโปรแกรมท่องเที่ยวของโครงการกำลังใจที่จะมอบสิทธิ์ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคนท่องเที่ยวฟรี

สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการเที่ยวปันสุข โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ก่อให้เกิดรายรับทางเศรษฐกิจ 123,850.36 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงาน 225,868 คน โครงการกำลังใจก่อให้เกิดรายรับทางเศรษฐกิจ 15,889.22 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงาน 36,738 ล้านบาท รวมทั้ง 2 โครงการก่อให้เกิดรายรับทางเศรษฐกิจ 139,739.58 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงานรวม 262,606 คน

นอกจากนี้ นายกฯยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทราเวลบับเบิลหรือการเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวงจำกัดว่า ให้เดินหน้าต่อเพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้าได้เลย ไม่ต้องหยุด ด้วยการประสานกับประเทศต่างๆ ที่มีความเสี่ยงโรคโควิด-19 ต่ำ สามารถป้องกันโรคได้เทียบเคียงไทยและสนใจแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยน่าจะมีการพิจารณากันอีกครั้งเมื่อผ่านพ้นช่วง 14 วันหลังเกิดกรณีทหารอียิปต์และลูกทูตประเทศซูดานที่ทำให้คนไทยตระหนกว่าจะมีการแพร่ระบาดรอบ 2 ในประเทศ