นายกสมาคมเลี้ยงหมู ยัน 'หมูแพง' สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

นายกสมาคมเลี้ยงหมู ยัน 'หมูแพง' สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

เกษตรกรหมู ชี้ราคาหมูแพงเป็นไปตามกลไกลตลาด จากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น  ยันหมูไทยถูกสุดในอาเซียน ย้ำดูแลราคาหมูและผู้บริโภคเต็มที่ เตรียมขายหมูถูกลดค่าครองชีพประชาชนสู้ภัยโควิด

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาสุกรหน้าฟาร์มอยู่ที่ 78-79 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรกรทั่วประเทศยืนหยัดให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน ดูแลราคาหน้าฟาร์มไม่เกิน 80 บาท ทำให้ราคาขายหมูหน้าเขียงไม่เกิน 160 บาทต่อกิโลกรัม เป็นการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยราคาเป็นไปตามกลไกตลาด จากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น เหมือนกับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ตามราคาหมูไทยยังคงถูกที่สุดในภูมิภาคนี้ ที่สำคัญเกษตรกรวอนขอความเห็นใจ เพราะมีอาชีพเดียวไม่สามารถเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นได้ ขณะที่ผู้บริโภคมีทางเลือกในการรับประทานโปรตีนอื่นๆทดแทนได้ ทั้งไก่ ไข่ ปลา รวมถึงอาหารธรรมชาติที่ออกมามากในช่วงนี้

       

การปรับเพิ่มขึ้นในช่วงสั้นๆ หลังจากหลายกิจการเริ่มกลับมาดำเนินการ ประกอบกับโรงเรียนเปิดภาคเรียน แต่เกษตรกรยังคงราคา 78-79 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้เกษตรกรพออยู่ได้ โดยเพิ่งจะขายได้ราคานี้ หลังจากแบกรับภาระขาดทุนสะสมมาถึง 3 ปี จากภาวะหมูล้นตลาดและราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น เกษตรกรยืนราคานี้ไว้ไม่กระทบกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคจนเกินไป ยืนยันว่าปริมาณหมูมีเพียงพอกับการบริโภคในประเทศ ผู้บริโภคไม่ต้องกังวล การปรับราคานี้สะท้อนกลไกตลาดที่แท้จริง นับว่าเป็นราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ สมาคมฯได้ผนึกกำลังกับสมาชิก จัดกิจกรรมจำหน่ายหมูสดลดค่าครองชีพประชาชนทั่วไทย ส่งตรงจากฟาร์มถึงมือผู้บริโภคไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง นำร่องที่จังหวัดชลบุรีก่อนเป็นที่แรก ในวันที่ 21 ก.ค.และขายพร้อมกันทุกภูมิภาค วันที่ 7 ส.ค.นายสุรชัยกล่าว

นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีความวิตกกังวลเรื่องโรคอหิวาต์แอฟริกัน( ASF) ในสุกร ที่ระบาดในหลายประเทศ เกษตรกรทุกคนต่างเข้าเลี้ยงสุกรอย่างระมัดระวัง พบว่าสุกรในระบบของไทยหายไปกว่า 20% จากเดิมในปี 2562 ไทยที่มีสุกรในระบบประมาณ 20,000,000 ตัว ที่สำคัญเกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น จากการเฝ้าระวังและป้องกัน ASF อย่างเข้มงวด ทำให้เกษตรกรมีค่าใช้จ่ายเพิ่มถึงตัวละ 100 บาท แต่ทุกคนยินดีดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้โรคนี้มาทำลายอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร และเกษตรกรผู้เพาะปลูกในห่วงโซ่การผลิต ทั้งยังเป็นการปกป้องผู้บริโภคไม่ให้ต้องได้รับความเดือดร้อนเหมือนกับประเทศอื่นในภูมิภาค

ทั้งก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาล่าสุดเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัม (กก.) ละ 150-160 บาท เป็นกก.ละ 170-180 บาท เนื่องจากราคาหมูเป็นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นกก.ละ 86-87 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กรมการค้าภายในได้เคยตกลงไว้กับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติว่าจะคุมราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มไม่ให้เกินกก.ละ 80 บาทและราคาดังกล่าวน่าจะสูงสุดในรอบ 10 ปี

สาเหตุที่ทำให้ราคาหมูเนื้อแดงปรับเพิ่มขึ้น มาจากความต้องการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นจากการที่รัฐบาลได้คลายล็อกดาวน์ มีการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเปิดเทอม ขณะที่หมูเป็นมีผลผลิตลดลง จากที่ก่อนหน้านี้เป็นช่วงหน้าร้อน ทำให้หมูโตช้า รวมทั้งปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาด

ทั้งนี้หากไม่สามารถดูแลราคาหมูเนื้อแดงให้อยู่ในระดับราคาปกติ 150-160 บาทได้ จะส่งผลให้ราคาอาหารที่ใช้หมูเป็นวัตถุดิบ เช่น หมูทอด หมูแดดเดียว กุนเชียงหมู หรืออาหารอื่นๆ ที่ใช้หมูเป็นวัตถุดิบ อาจจะมีการปรับราคาขึ้นได้ ซึ่งขณะนี้ ล่าสุดหลายๆ ร้าน ได้แจ้งกับลูกค้าแล้วว่าหากราคาหมูเนื้อแดงยังสูงต่อเนื่อง ก็จะขอปรับขึ้นราคา