กสทช.สั่งทำโทษช่อง 8 จอดำช่วงเวลารายการ 'ช่องส่องผี'

กสทช.สั่งทำโทษช่อง 8 จอดำช่วงเวลารายการ 'ช่องส่องผี'

กสทช. สั่งทำโทษช่อง 8 จอดำ 1 ครั้งในช่วงเวลาที่เคยออกอากาศรายการ “ช่องส่องผี” แม้ว่าทางช่องจะถอดรายการออกไปแล้ว เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม

วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ พร้อมตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมรับฟัง เพื่อหารือสรุปข้อเท็จจริงในการเผยแพร่รายการช่องส่องผี  ที่มีการปมเนื้อหารายการบิดเบือนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

โดยมี พลโท ดร. พีระพงษ์  มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้  และทางทีมงานฝ่ายกฎหมาย ช่อง 8 เข้าชี้แจงถึงข้อเท็จจริงต่อ กสทช. โดยนำเอกสารต่าง ๆ มาด้วย ทั้งนี้ในที่ประชุมใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

พลโท ดร. พีระพงษ์  เปิดเผยหลังการประชุมว่า  การประชุมในวันนี้เชิญผู้เชียวชาญภายนอก จากกระทรวงมหาดไทย มาให้ความเห็นในกรณีการรับบริจาคและผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงวัฒนธรรมให้ความเห็นในเรื่องประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานได้ให้ความเห็นต่างกัน สำหรับกรณีการบริจาคเป็นปัญหาของกฎหมายซึ่งยังไม่ชัดเจน เพราะเป็นกฎหมายเก่าเพราะฉะนั้นเรื่องการรับบริจาคอยู่ระหว่างเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งต้องดูอีกครั้งว่าการขอบริจาคทางสื่อจะเข้าข่ายผิดหรือไม่ผิด

ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมให้ความเห็นในกรณีประวัติศาสตร์ ว่าจริงๆแล้วเป็นการนำเสนอที่ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะว่าประวัติศาสตร์ จะเปลี่ยนได้ก็ต่อเมื่อมีวัตถุพยาน ข้อมูลรองรับจนกระทั่งรู้สึกว่าเรื่องใหม่เป็นเรื่องที่จริงที่น่าเชื่อถือได้ กว่าเรื่องเก่า แต่เรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อนอกระบบไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์โดยคำให้การของผู้เชี่ยวชาญภายนอก 

สรุปแล้วเห็นว่าการนำเสนอรายการนี้มีปัญหา 2 ข้อ คือ

  1. การทรงเจ้าหรือร่างทรง เป็นการใช้ความเชื่อนอกระบบที่พิสูจน์ไม่ได้ จึงไม่ควรนำมาเสนอผ่านรายการทางโทรทัศน์ เพราะจะทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องเชื่อว่าเป็นความจริง
  2. เนื้อหาในเชิงประวัติศาสตร์ต่อบุคคลต่างๆไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่มีเนื้อหาที่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นการกล่าวอ้างของร่างทรง ซึ่งวิเคราะห์แล้วเห็นตรงกันว่าผิดเพี้ยน เนื้อหารายการจึงส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบุคคลที่ประชาชนเคารพนับถือ

สำหรับบทลงโทษในครั้งนี้ทางอนุคณะกรรมการได้มีคำตัดสินว่า รายการดังกล่าว เป็นการออกอากาศที่ผิดขัดต่อมาตรา 37 ซึ่งโทษปรับได้สูงสุด 500,000 บาท แต่คณะอนุกรรมการฯ ได้ยกระดับให้หยุดทำรายการ และระงับรายการ 1 ครั้ง แต่เนื่องจากทางช่องได้มีความรับผิดชอบส่วนตัว และมีวิจารณญาณที่ดีมาก ได้ถอดรายการออกไป จึงสั่งให้จอดำ 1 ครั้ง ในช่วงเวลาที่เคยออกอากาศ "ช่องส่องผี" แม้ว่าทางช่องจะถอดรายการออกไปแล้ว

ทั้งนี้การสั่งระงับในครั้งนี้ต้องการทำให้สังคมรู้ว่าทางช่อง และทาง กสทช.ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น