เลือกกลุ่มอาหาร อสังหาฯ สื่อสาร ในช่วงตลาดผันผวนจากปัจจัยต่างๆ

หุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนยังคงปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งดีกว่าคาด, การชนะคดีเรื่องภาษีของ Apple ต่อศาลยุโรป ขณะที่ข่าวความคืบหน้าของวัคซีนโควิด หนุนการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมิ.ย. เพิ่มขึ้น 5.4% (ตลาดคาด 4%) ฟื้นตัวขึ้นเป็นเดือนที่สองต่อเนื่อง วันนี้บรรยากาศหุ้นเอเชียยังเป็นบวกต่อ โดยเฉพาะหากรายงาน GDP ไตรมาส 2/63 ของจีนออกมาเกิน 2.5% ขณะที่ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป/การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)/ยอดค้าปลีก สหรัฐฯ คืนนี้

น้ำมันบวกจากโอเปคกำหนดให้ประเทศที่ผลิตเกินต้องชดเชย ผลการประชุมของกลุ่มโอเปคและพันธมิตรไม่มีการเปลี่ยนแปลงการเข้าสู่ระยะที่สองของแผนการปรับลดกำลังการผลิตหลังสิ้นก.ค.ที่จะปรับลดการผลิตลงเหลือ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ลดมากถึง 9.6 ล้านบาร์เรล (เท่ากับผลิตเพิ่มขึ้น) อย่างไรก็ตามแถลงข่าวระบุว่าประเทศที่มีการผลิตเกินในช่วงที่ผ่านมา จะต้องนำส่งแผนชดเชยการปรับลดการผลิตที่เกินไป ส่งผลให้ในช่วงแรกของเฟสสอง การลดการผลิตจริงของโอเปคอาจสูงกว่าเป้าหมายที่ 7.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันและหุ้นพลังงาน

จากงบ DTAC กลุ่มสื่อสารมีโอกาสรายงานกำไรดีกว่าคาด บริษัท DTACรายงานกำไรไตรมาส 2/63 ที่ 1,889 ล้านบาท ดีกว่าที่คาดการณ์ของ Bloomberg concenus ที่ 1,102 ล้านบาท ถึง 71% ทั้งนี้กำไรที่ดีกว่าคาดมาจาก 1) รายการพิเศษ Interest rate swap ประมาณ 232 ล้านบาท 2) กำไรครั้งเดียวจากการสนับสนุนมาตรการของกสทช. (โทรฟรีและเน็ตฟรี) 80 ล้านบาท 3) ค่าใช้จ่ายโครงข่ายและค่าใช้จ่ายด้านการบริหารที่ลดลง (ซึ่งน่าจะมาจากการปิดสาขาในช่วงปิดเมือง) ซึ่งรายการที่ 2 และ 3 มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรายอื่นเช่นกัน ทำให้เบื้องต้น เราคาด ADVANC และ TRUE มีโอกาสรายงานกำไรที่ดีกว่าคาดเช่นกัน

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ เรายังเน้นลงทุนอย่างระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ CPALL, ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL 6) อสังหาฯ ชอบ SPALI, SC, AP

ภาพรวมกลยุทธ์ ภาพรวมการเก็งกำไรยังมีโมเมนตัมบวกจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานของหุ้นไทยที่ไม่มีหุ้นเทคโนโลยี จะทำให้ภาพรวมผลประกอบการด้อยกว่าหุ้นสหรัฐฯ การลงทุนจึงเน้นเลือกหุ้นในกลุ่มที่มีแนวโน้มจากนี้ดี (อาหาร อสังหาริมทรัพย์) ควบคู่ไปกับกลุ่มปลอดภัย/มั่นคง (สื่อสาร สาธารณูปโภค) โดยมีกรอบการเก็งกำไรระยะสั้น 1340-1380 จุด  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF*, SPALI*, ADVANC*

แนวรับ 1,340 จุด / แนวต้าน : 1,375-1,380 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

จีนระงับเที่ยวบิน ไลออนแอร์ ไทยแอร์เอเชีย – สำนักงานการบินพลเรือนจีน (CAAC) ระงับเที่ยวบินกรุงเพ-กวางโจวของสองสายการบินดังกล่าว หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด 6 และ 5 ราย เมื่อ 10 ก.ค. อย่างไรก็ตามเที่ยวบินดังกล่าวมาจากต่างประเทศ และไม่ได้มีการรับ-ส่งคนในไทย ก่อนบินต่อไปจีน จึงไม่ส่งสัญญาณถึงสถานการณ์ระบาดในประเทศแต่อย่างใด

การเมือง – ติดตามการปรับครม.และเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด และทีมงานลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เรามีมุมมองเป็นกลางต่อรายชื่อที่ตลาดพูดถึง โดยจะมองบวกต่อเมื่อการปรับครม.มีสัญญาณของทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพกว่าเดิม (กระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดอยู่ภายใต้พรรคเดียว)

ประเด็นติดตาม: 24 ก.ค. – ครม. พิจารณามาตรการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว/ 9 ส.ค. – เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)