กรมสุขภาพจิต กระตุ้น ปชช. ให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ข่าวปลอมอาจทำให้เครียดและเข้าใจผิดได้ 

กรมสุขภาพจิต กระตุ้น ปชช. ให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ข่าวปลอมอาจทำให้เครียดและเข้าใจผิดได้ 

กรมสุขภาพจิต กระตุ้นประชาชนให้ช่วยกันตระหนักแต่ไม่ตระหนก ให้สถานการณ์ในพื้นที่สุขุมวิทและจังหวัดระยองเป็น 1 ในสัญญาณเตือนในการดูแลตนเองและครอบครัวในช่วงที่ยังมีการระบาดของโควิด -19 อยู่ทั่วโลก

จากสถานการณ์หลังจากพบชาวต่างชาติติดเชื้อโควิด-19 และมีการเดินทางและพำนักในเขตสุขุมวิทและจังหวัดระยองนั้น เป็นสถานการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนทั้งในพื้นที่จังหวัดระยองและย่านสุขุมวิทในช่วงที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตมีความห่วงใยประชาชนไทย และอยากกระตุ้นประชาชนให้ช่วยกันตระหนักแต่ไม่ตระหนก ใช้สถานการณ์นี้เป็นเสียงกระตุ้นในการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตนเอง รวมไปถึงการรับฟังข่าวสารโดยใช้วิจารณญาณ ช่วยกันคัดกรองข่าวลือและข่าวปลอมที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเครียดและความเข้าใจผิดได้

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมนั้น ช่วยเหลือกันและทำงานอย่างเต็มศักยภาพในทุกภาคส่วน กรมสุขภาพจิตได้ติดตามเสียงของประชาชนผ่านสื่อต่างๆทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์พบว่ามีความตื่นตระหนกและกังวลของประชาชนทั้งในพื้นที่และจุดอื่นๆในประเทศ เราจึงควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นการกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและประชาชนไทยทุกคน ช่วยกันสอดส่องดูแล และยังคงมาตรการการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสวมหน้ากากผ้า ล้างมือ กินร้อนช้อนส่วนตัว อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อไปว่า กรมสุขภาพจิตตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากความเครียดในครั้งนี้ โดยวางแผนการติดตามความเครียดและความกังวลของประชาชนอย่างต่อเนื่อง และแจ้งให้หน่วยบริการด้านสุขภาพจิตในพื้นที่ให้บริการประชาชนอย่างเต็มศักยภาพ และให้บริการแก่ประชาชนผ่านการบริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อลดความตระหนกจากสถานการณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่ความวิตกกังวล หวาดกลัว และนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพจิตในที่สุด นอกจากนั้นกรมสุขภาพจิต ขอแสดงความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชน ส่งเสริมให้คนทุกคนรับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ รับฟังด้วยความตระหนักแต่ไม่ตระหนก ระมัดระวังข่าวลือและข่าวปลอมที่อาจแพร่ระบาดในช่วงนี้ โดยเน้นการรับข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้หรือจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และเมื่อพบว่าสภาพจิตใจมีความทุกข์ สามารถเริ่มหาช่องทางในการคลายความทุกข์ด้วยตนเอง พูดคุยกับคนรอบรอบข้าง หากมีความเครียด ความกังวล ให้ปรึกษาคนใกล้ชิดหรือใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง กรมสุขภาพจิตเชื่อมั่นว่าประชาชนไทยจะสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกันด้วยพลัง “อึด ฮึด สู้” ของทุกคน

159487720021