ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวต้าน 1350 / 1363 จุด แนวรับ 1328 / 1318 จุด ปัจจัยบวกมาจากการเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค (เปิดต่า ปิดสูง) ผลทดสอบวัคซีนของ Moderna ที่มีประสิทธิภาพ และการเริ่มคลายวิตกจากความเสี่ยงของการแพร่ระบาด COVID-19 ของ 2 กรณี ที่มาจากต่างประเทศ (ผู้มีความเสี่ยงสูง 16 ราย และความเสี่ยงต่ำ 24 ราย) หลังจากนายกฯ สั่งระงับเที่ยวบินจากต่างประเทศชั่วคราว และจะไม่มีการ lockdown ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและแคนาดา ผลประชุมโอเปคพลัส รายงานงบการเงิน 2Q20E การเริ่มจองโครงการเราเที่ยวด้วยกันวันแรก งานมอเตอร์โชว์ เป็นต้น

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

      1) ตลาดหุ้นโลก/เอเชียฟื้นตัว รับข่าว Moderna เผยผลทดสอบวัคซีนเฟส 1 สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีและปลอดภัย

      2) นายกฯ สั่งระงับเที่ยวบินจากต่างประเทศชั่วคราวแเละสั่งศบค. หาแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ที่เข้มงวดขึ้

      3) จับตาผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและแคนาดา (คาดคงดอกเบี้ย) และผลประชุมกลุ่มโอเปคพลัส (คาดผ่อนคลายการลดการผลิตเป็น 7.7 ล้าน จาก 9.7 ล้านบาร์เรล)

      4) ลุ้นรายงานผลกำไรกลุ่มการเงินสหรัฐฯ (เป็นลบ หากออกมาแย่กว่าคาด / เป็นบวก หากออกมาดีกว่าคาด) 5) ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่สอง 229.37 ล้านบาท (วันก่อนหน้าซื้อสุทธิ +422.87 ล้านบาท)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: Earnings-Goldman Sachs, IBM, eBay, Bank of New York Mellon, Alcoa, Japan/Canada-ผลประชุมธนาคารกลาง คาดคงดอกเบี้ย, OPEC Plus หารือข้อตกลงการลดการผลิตน้ำมันดิบ คาดลดเหลือ 7.7 ล้านบาร์เรล จนถึงสิ้นปี ตามแผนเดิม, US-Fed Beige Book, Industrial Production คาด +4.3% MoM (Vs เดือน พ.ค. +1.4%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบ แต่มีสัญญาณฟื้นตัว: ตลาดหุ้นไทยลดช่วงลบแรงกว่า 15.7 จุดในช่วงเปิดตลาด มาปิดที่ระดับใกล้สูงสุดของวันที่ 1341.07 จุด –1.30 จุด -0.1% วอลุ่ม 6.39 หมื่นล้านบาท กลุ่มบรรจุภัณฑ์ +2.87% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +1.01% แต่กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ -2.76% ธุรกิจการเกษตร -1.89% หุ้นขึ้น >4% EA PTL MAKRO SMPC ALL JTS UTP CAZ CFRESH SCI และหุ้นร่วง >4% TQM MEGA VGI PLANB ICHI YGG TRUBB IP MDX SMT WICE ECF FN

- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวกแรง DJ +2.13% S&P500 +1.34% Nasdaq +0.94% รับข่าวนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในผู้ว่าเฟด สนับสนุนให้ เฟดรุกซื้อสินทรัพย์จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรายงานผลกำไรกลุ่มธนาคารที่ดีขึ้น ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ DAX -0.8% CAC40 -0.96% วิตกการ lockdown รอบใหม่กระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

+/- น้ำมันดิบฟื้น และทองย่อตัวเล็กน้อย: WTI +USD0.19 ปิด USD40.29/บาร์เรล Brent +USD0.18 ปิด USD42.90/บาร์เรล จากข่าว JMMC ส่งสัญญาณว่ากลุ่มโอเปคพลัสสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงลดการผลิตเดือน มิ.ย. ได้มากกว่า 100% ส่วนราคาทองคำย่อตัวเล็กน้อย -USD0.70 ปิดที่ USD1813.40/ออนซ์ จากการขายสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อทำกำไร

ประเด็นสำคัญ

+ ไทย: ศบค. รายงานวันอังคาร (วันที่ 14 ก.ค.) พบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 7 ราย และอยู่ในสถานกักกัน (Vs วันจันทร์ที่ผ่านมา มีจานวน 3 ราย) สะสม 3,227 ราย และไม่มีผู้ติดเชื้อจากในประเทศต่อเนื่อง 50 วัน

- China: ดุลการค้าเดือน มิ.ย. แย่กว่าคาด โดยเกินดุลการค้าเพียง USD46.42bn ส่งออก +0.5% YoY นาเข้า +2.7% YoY เพิ่มขึ้นครั้งแรกของปีนี้ สะท้อนเศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว

- ไทย: นายกฯ สั่งระงับเที่ยวบินจากต่างประเทศไว้ก่อน จนกว่าจะหาแนวทางไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกัน หลังเกิด 2 กรณีสาคัญที่ผ่านมา และเพิ่ม ความเสี่ยงกับผู้ใกล้ชิด คือ 1) กรณีลูกเรือทหารอียิปต์ที่บินผ่านเข้ามาที่จ.ระยอง และออกไปในเมือง โดยไม่มีการกักกัน พบผู้ที่เสี่ยงสูงมี 9 ราย และเสี่ยงต่ำ 9 ราย และ 2) กรณีเด็กหญิงอายุ 9 ปี มากับสถานทูตซูดาน และพักในคอนโดที่สุขุมวิท 26 กทม. พบผู้ที่เสี่ยงสูงมี 7 ราย และเสี่ยงต่ำ 15 ราย

+ วัคซีน: Moderna เผยผลทดสอบเฟส 1 เมื่อเดือน มี.ค. ของวัคซีน mRNA-1273 ใน 45 คน (ให้ยาปริมาณ 25, 100 และ 250 ไมโครกรัม แก่ผู้ทดสอบอย่างละ 15 ราย) พบว่า ภูมิคุ้มกันสูงกว่า 4 เท่า เทียบกับผู้ป่วย COVID-19 ที่รักษาหายแล้ว และมีอาการข้างเคียงไม่มาก โดยจะทดสอบครั้งต่อไป (เฟส 3) ในวันที่ 27 ก.ค. จากผู้ทดสอบ 3 หมื่นราย ใน 87 แห่ง โดยจะให้ยา 100 ไมโครกรัม สองครั้ง ห่างกัน 29 วัน

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CPF CHAYO TISCO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: CBG BGRIM CPALL COM7 MTC SAWAD PTTGC TOP PTT GULF

Derivatives: ถือ Long GOU20 ที่เปิดไว้บริเวณ 1800 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)