GGC - ถือ

GGC - ถือ

ประมาณการ 2Q63: จะมีผลขาดทุนจากสต็อกสูงมาก

Event

ประมาณการ 2Q63, ทบทวนประมาณการปี 2563, ปรับลดราคาเป้ าหมายและคำแนะนำ

Impact

คาดว่าจะขาดทุนสุทธิใน 2Q63F เนื่องจากจะมีผลขาดทุนจากสต็อกสูงมาก

เราคาดว่า GGC จะขาดทุนสุทธิ 290 ล้านบาทใน 2Q63 จากที่ขาดทุนสุทธิ 22 ล้านบาทใน 2Q62 และกำไรสุทธิ 239 ล้านบาทใน 1Q63 เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากสต็อกสูงถึง 340 ล้านบาท ใน 2Q63 หลังจากที่ราคา CPO ลดลงจาก 29.40 บาท/กก. ในเดือนมีนาคม เหลือแค่ 21.50 บาท/กก. ในเดือนมิถุนายน และราคา CPKO ก็ลดลงจาก US$785/ton ในเดือนกุมภาพันธ์ เหลือ US$590/ton ในเดือนพฤษภาคม เพราะถูกกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และผลผลิตปาล์มในประเทศไทยที่สูงตามฤดูกาล ในขณะเดียวกันเราก็คาดว่ากำไรจากธุรกิจไบโอดีเซลของบริษัทจะลดลง QoQ เนื่องจากคาดว่ารายได้ของไบโอดีเซลใน 2Q63 จะลดลงถึง 33% QoQ เหลือ 2.9 พันล้านบาท แม้ว่าปริมาณยอดขายจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 101,000 ตัน เนื่องจากราคาอ้างอิง B100 ลดลงเหลือแค่ 26.50 บาท/ลิตร (-30% QoQ) หลังจากที่ต้นทุน CPO ลดลงจากระดับที่สูงใน 1Q63 เมื่อรัฐบาลบังคับใช้ B10 เป็นเชื้อเพลิงดีเซลพื้นฐานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ดังนั้น margin ของไบโอดีเซลจึงลดลง QoQ จาก 11.5% เหลือ 10.0% แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจ FA จะฟื้นตัวขึ้น QoQ เนื่องจาก i) P2F (product-to-feed) margin ของ FA เพิ่มขึ้น 6% QoQ เป็น US$347/ton จากอุปสงค์เพิ่มขึ้นเพราะสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลงไปและ ii) ปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้น 16% QoQ กลับไปอยู่ในระดับปกติที่ 24,000 ตัน

แนวโน้มตลาดไบโอดีเซลของไทยดูสดใสตั้งแต่ 3Q63F เป็นต้นไป

จากข้อมูลของกรมการค้าภายใน ราคา CPO ถูกกดดันจากสต็อก CPO ในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงที่ 399,132 ตันในเดือนพฤษภาคม จากระดับต่ำที่ 180,476 ตันในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากผลผลิตปาล์มสูงตามฤดูกาลในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม และอุปสงค์ไบโอดีเซลลดลงในช่วงเดือน
มีนาคม-เมษายนซึ่งมีการใช้มาตรการ lockdown ทั่วประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เราพบว่าอุปสงค์ไบโอดีเซลในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 8% MoM เป็น 5.1 ล้านลิตร/วัน ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากมีปริมาณการจราจรบนท้องถนนเพิ่มขึ้นหลังจากที่ประเทศไทยสามารถคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ดีโดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ภายในประเทศเป็นศูนย์ต่อเนื่องนานถึง 50 วัน นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้สั่งให้กฟผ. เมื่อวานนี้ ให้เร่งซื้อ CPO ตามที่ได้รับการอนุมัติไปแล้วที่เหลืออีก 37,750 ตัน และให้ กฟผ. ไปพิจารณาซื้อ CPO เพิ่มอีก 100,000 ตัน ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าราคา CPO น่าจะสูงขึ้นใน 2H63 เนื่องจากมีการ
ใช้ B100 เพิ่มขึ้น และสต็อก CPO ลดลง

Valuation & Action

เราปรับลดราคาเป้าหมาย 1H64 ลงเหลือ 10.00 บาท จากเดิมที่ 11.50 บาท โดยอิงจาก P/E ที่ 16.0x เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 30% เหลือ 454 ล้านบาท หลังจากที่เราปรับลดสมมติฐาน margin ของไบโอดีเซลลงจาก 12.1% เหลือ 11.3% และเพิ่มผลขาดทุนจากสต็อกอีก 100 ล้านบาทจากเดิมที่คาดว่าจะเป็นศูนย์ นอกจากนี้ เรายังปรับลดคำแนะนำหุ้น GGC จากซื้อเป็นถือ เพื่อสะท้อนถึงประมาณการใน 2Q63 ซึ่งน่าจะออกมาขาดทุน

Risks

ความผันผวนของราคา CPO, margin ของ B100, P2F margin ของ FA, การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับที่ให้ B10 เป็นเชื้อเพลิงพื้นฐานของประเทศ และแพ้คดีที่เกี่ยวข้องกับการที่สต็อกหายซึ่งทำให้ต้องตั้งสำรองประมาณ 400 ล้านบาท