ข่าววัคซีนบวกต่อตลาด และทำให้เกิดการหมุนกลุ่มหุ้น แต่ระวังหุ้นถุงมือยางผันผวน

ข่าววัคซีนบวกต่อตลาด และทำให้เกิดการหมุนกลุ่มหุ้น แต่ระวังหุ้นถุงมือยางผันผวน

ข่าวความคืบหน้าวัคซีนบวก และทำให้เริ่มเห็นการหมุนกลุ่ม

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวนโดยมีแรงทำกำไรในช่วงต้นกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลงแรงก่อนฟื้นตัวขึ้น แถลงการณ์ของบริษัทผู้ผลิตวิคซีนโมเดอร์นา  ระบุผลการทดลองขั้นต้นของวัคซีนต้านโควิดกับผู้ป่วย 45 ราย ทั้งหมดมีการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันที่ดี และจะเริ่มทำการทดสอบในระยะที่ 3 ต่อไป ส่งผลให้ หุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวก โดย DJIA (+2.13%), S&P500 (+1.34%) และ Nasdaq (+0.94%) ทั้งนี้เริ่มเห็นการขายทำกำไรสลับออกจากกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการทำงานที่บ้าน (WFH) เข้าสู่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจปกติ อย่างไรก็ตามระวังความผันผวนของหุ้นยาง/ถุงมือยาง ที่ซื้อขายด้วย Valuation ที่ตึงตัว

กลุ่มธนาคารมีทั้งปัจจัยบวกและลบ – ปัจจัยบวกคือธปท.มีแนวโน้มลดเงินนำส่งกองทุนฟื้นฟู (FIDF) ออกไปซึ่งจะบวกต่อต้นทุนการดำเนินงาน อย่างไรก็ตามธปท.ยืนยันไม่ต่ออายุมาตรการพักชำระเป็นการทั่วไปให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งจะหมดอายุในเดือนต.ค.นี้ จากความกังวลว่าจะมีผลกระทบข้างเคียงและอาจนำไปสู่ปัญหาด้านวินัยชำระเงินและให้ใช้แนวทางปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้งบกลุ่มธนาคารในช่วงสิ้นปี จะมีแนวโน้มที่ผันผวนและยากต่อคาดการณ์ โดยกลุ่มธนาคารจะเริ่มประกาศงบในปลายสัปดาห์นี้

เน้นหุ้นที่ผลการดำเนินงานดี/ปลอดภัย ในช่วงประกาศงบไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ส.ค.) เราประเมินตลาดจะเริ่มกลับมาประเมินอย่างจริงจังถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิดต่อผลประกอบการ ทำให้หุ้นที่มีผลการดำเนินงานดีอย่าง กลุ่มอาหารและสินค้าเกษตร และหุ้นปลอดภัย หรือที่มีรายได้มั่นคง มีแนวโน้มที่จะได้รับการจัดสรรเม็ดเงินลงทุนมากขึ้น หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ CPF, TU, STA, ADVANC, INTUCH, WHAUP, EASTW, SUPER ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีสัญญาณของยอด presale ที่ดี เป็นบวกกับ SPALI, AP, SC และ LH // ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในช่วงสั้นจะเสี่ยงต่อการถูกปรับลดน้ำหนักหนักการเปิดประเทศล่าช้า และอาจจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งหากงบออกมาไม่เลวร้ายอย่างที่กังวล

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ เรายังเน้นลงทุนอย่างระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ CPALL, ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL 6) อสังหาฯ ชอบ SPALI, SC, AP

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวแบบมีแรงทำกำไรสลับ คงมุมมอง ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง/วัคซีน/งบ เก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF*, PTTGC*, SPALI*, WHAUP*

แนวรับ 1,331 จุด / แนวต้าน : 1,350 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ผู้ว่าเฟดออกมาสนับสนุนมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่อเนื่อง – นางลาเอล เบรนาร์ด คณะผู้ว่าเฟดออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้ารุกมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์จำนวนมากอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด

หุ้นแบงก์ใหญ่ในสหรัฐฯรายงานกำไรดีกว่าคาด – เจพีมอร์แกน เชส ธนาคารขนาดใหญ่สุดในสหรัฐฯ รายงานกำไรไตรมาส 2/63 ที่ $1.32 ต่อหุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ $1.04 ต่อหุ้น

MINT – ปรับลดราคาเพิ่มทุนตามสิทธิ์ (RO) เหลือ 17.40 บาท (จาก 18.90 บาท) ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทเคยระบุว่าสามารถปรับสิทธิ์ได้ระหว่าง 17.10-18.90 บาท จองซื้อและชำระเงิน 17-23 ก.ค.63

ประเด็นติดตาม: 14 ก.ค. – OPEC monthly report, 24 ก.ค. ครม. พิจารณามาตรการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว/ 9 ส.ค. เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)