เคลื่อนไหวผันผวนจากข่าวพบผู้ติดเชื้อนอกพื้นที่กักกันในระยอง-กทม.

เคลื่อนไหวผันผวนจากข่าวพบผู้ติดเชื้อนอกพื้นที่กักกันในระยอง-กทม.

ความกังวลพบผู้ติดเชื้อเดินทางในระยอง-กทม.

ซึ่งเป็นทหารและครอบครัวฑูตที่อยู่ในกลุ่มยกเว้น/อนุโลมให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ ก่อนจะพบการติดเชื้อในเวลาต่อมา ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงในช่วงครึ่งบ่ายวานนี้ ขณะที่ศบค.จะมีการแถลงด่วนในวันนี้ เราคาดกระแสเชิงลบที่เกิดขึ้นจะสร้างแรงกดดันเชิงลบต่อการผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศให้เข้มข้น และอาจจะเนิ่นช้าออกไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อเนื่องต่อกลุ่มท่องเที่ยว สนามบิน และสายการบิน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนข่าวยา และแรงทำกำไร Pfizer (สหรัฐฯ)และ BioNTech (เยอรมัน) ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ให้ดำเนินการทดสอบวัคซีนเป็นกรณีเร่งด่วน (fast track) ซึ่งจะทำให้ได้รับการผ่อนคลายจากกฎเกณฑ์บางอย่าง และกระบวนการพัฒนาวัคซีนมีความรวดเร็วมากขึ้น เป็ยนปัจจัยบวกในช่วงต้นการซื้อขาย ก่อนที่ตลาดหุ้นจะมีแรงทำกำไร โดยเฉพาะในหุ้นเทคโนโลยีที่เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีข่าวรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศปิดสถานประกอบการบางประเภท (อาทิ บาร์ และโรงภาพยนตร์) หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นิวยอร์กออกคำสั่งฉุกเฉินกำหนดให้ประชาชนที่เดินทางมาจากรัฐที่มีการระบาดสูง ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการเดินทาง ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในนิวยอร์ก

เน้นหุ้นที่ผลการดำเนินงานดี/ปลอดภัย เลี่ยงหุ้นที่คาดการณ์ไม่ได้ ในช่วงประกาศงบไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ส.ค.) เราประเมินตลาดจะเริ่มกลับมาประเมินอย่างจริงจังถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิดต่อผลประกอบการ ทำให้หุ้นที่มีผลการดำเนินงานดีอย่าง กลุ่มอาหารและสินค้าเกษตร และหุ้นปลอดภัย หรือที่มีรายได้มั่นคง มีแนวโน้มที่จะได้รับการจัดสรรเม็ดเงินลงทุนมากขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในช่วงสั้นจะเสี่ยงต่อการถูกปรับลดน้ำหนักหนักการเปิดประเทศล่าช้า และอาจจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งหากงบออกมาไม่เลวร้ายอย่างที่กังวล หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ CPF, TU, STA, ADVANC, INTUCH, WHAUP, EASTW, SUPER  

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ เรายังเน้นลงทุนอย่างระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ CPALL, ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL 6) อสังหาฯ ชอบ SPALI, SC, AP // กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ควรพิจารณาแบ่งทำกำไร AJ, PTL หลังขึ้นแรง

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวแบบมีแรงทำกำไรสลับ คงมุมมอง ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง เก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF*, STA* WHAUP*, INTUCH*

แนวรับ 1,331 จุด / แนวต้าน : 1,350 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

รองนายกสั่งเพิ่มซอฟต์โลน 1 แสนล้านช่วยธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการ ช่วยธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการ โดยจะออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 1 แสนล้านบาท เพื่อให้ธนาคารออมสินไปปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ โดยมีบสย.) เข้ามาค้ำประกันสินเชื่อ

สิงคโปร์เข้าสู่ภาวะถดถอย - สิงคโปร์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ดิ่ง 41.2% เข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มที่ ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรม บริการ และโรงงานกระทบหลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิดทำให้ต้องมีการ lock down อย่างต่อเนื่อง

เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ - กกต.กำหนด 9 ส.ค. เลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ เปิดรับสมัคร 16-20 ก.ค.

ประเด็นติดตาม: 14 ก.ค. – OPEC monthly report, 24 ก.ค. ครม. พิจารณามาตรการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว/ 9 ส.ค. เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)