ระยองเสี่ยง 'โควิด-19' 394 คน 'ไทยชนะ' ระบุ อยู่ห้างเดียวกับทหารอียิปต์

ความคืบหน้าของการติดตามสถานการณ์ โควิด-19 ที่ จ.ระยอง จากกรณีที่ ทหารอียิปต์ที่มีผลตรวจพบเชื้อเข้าไปใช้บริการเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00 - 15.00 น. ล่าสุด นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูลมาตรการการแก้ไขปัญหา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยข้อมูลการเช็กอินของแอปพลิเคชั่นไทยชนะวันนี้

นพ.พลวรรธน์ ระบุว่า จากฐานข้อมูลที่ประมวลผลการรายงานจากแพลตฟอร์มไทยชนะ พบว่า มีประชาชนที่อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวน 394 ราย เข้าไปเช็คอินอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับทหารอียิปต์ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00 - 15.00 น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ศบค.เลิกสิทธิ์วีไอพี-แบล็คลิสต์เที่ยวบินอียิปต์
• แจงละเอียดยิบ! ศบค.เปิดไทม์ไลน์ทหารอียิปต์เข้าไทย
• เด้งฟ้าผ่าผู้ว่าฯ ระยอง หละหลวมคุมโควิด

โดยผู้ลงทะเบียนเช็คอินไทยชนะทั้ง 394 รายนั้น เป็นจำนวนของผู้ที่สามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ ติดต่อได้ ขณะที่อีก 2 รายไม่สามารถยืนยันเบอร์ติดต่อได้ เนื่องจากอาจจะใส่เบอร์โทรศัพท์ปลอม

ผู้เช็คอินทั้ง 394 ราย นั้นสามารถแบ่งออกเป็น

• ผู้ที่ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ 348 คน
• ผู้ที่ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นไทยชนะ 37 คน

ขั้นตอนปฏิบัติต่อไปนั้น ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี จะทำการติดต่อไปเป็นการส่วนตัว เพื่อเรียกตัวมาดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และทำการสอบสวนโรคต่อไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะนี้ศบค.เตรียมส่งข้อความ (SMS) ติดต่อโดยมีข้อความดังนี้

1. ให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน พร้อมสมาชิกในบ้าน

2. ให้ทำบันทึกเดินทางช่วงวันที่ 10-14 ก.ค. 63

3. ให้ติดต่อกลับ สสจ.ระยอง ดังนั้นบุคคลที่ได้รับ SMS ดังกล่าว ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำโดยเคร่งครัดด้วย

นอกจากนั้นยังมีการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ห้างสรรพสินค้าอีกแห่งมีผู้ใช้บริการในเวลาดังกล่า 1,488 ราย มี 7 รายที่ติดต่อเบอร์โทรศัพท์ไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม นพ.พลวรรธน์ ขอให้ประชาชนระวังผู้แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ติดต่อด้วยความประสงค์ร้าย และในส่วนของผู้ที่ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ แต่เดินทางไปยังสถานที่และช่วงเวลาดังกล่าว ขอให้เข้ามารายงานตัวกับกรมควบคุมโรค หรือ ติดต่อสายด่วน โทร. 1422 เพื่อดำเนินการสอบสวนเชื้อ โควิด-19 โดยเร็วที่สุด