รอ กกต. ชงไทม์ไลน์ เลือกตั้งท้องถิ่นปีนี้ นายกฯลั่นเคาะเอง

รอ กกต. ชงไทม์ไลน์ เลือกตั้งท้องถิ่นปีนี้ นายกฯลั่นเคาะเอง

นายกฯ ยันอำนาจตัดสินใจประเดิมเลือกตั้งท้องถิ่นสนามแรกปีนี้ ด้าน พปชร. ฟ้องกลับ “เรืองไกร” ปมยื่นยุบพรรค “ไพบูลย์” เตือนแจ้งความเท็จเสี่ยงผิดอาญา ฝ่ายค้านรุมขวางปลด “เสรีพิศุทธ์”

ขณะที่“วุฒิสภา” ไฟเขียว “บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่

ความคืบหน้าการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น วานนี้(13 ก.ค.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบวันที่ชัดเจน ต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เสนอมา แต่ยืนยันว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นน่าจะมีในปีนี้ ส่วนจะเป็นพื้นที่ใดบ้างนั้น ตนจะตัดสินใจเอง

ส่วนความเคลื่อนไหวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องต่อกกต.ให้พิจารณายุบพรรคจากกรณีเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า พปชร.โดยใช้พื้นที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ล่าสุดนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่ว่า ตนได้ดูในคำร้องที่นายเรืองไกรได้ยื่นแล้วเป็นคำร้องที่ไร้สาระ ไม่มีประเด็นข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริงใดๆ ซึ่งการร้องในลักษณะแบบนี้ตนมองว่าเป็นการร้องที่เป็นภาระน่าอายให้กับ กกต.

ดังนั้นเพื่อที่จะให้กระบวนการที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐ ผู้ร้องจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำ ตนจึงจะดำเนินการตรวจสอบนายเรืองไกร โดยการไปยื่นคำร้องให้ กกต.พิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.101 ที่ระบุว่า “ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น” ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของ กกต.

และอีกเรื่องที่จะดำเนินการเนื่องจาก กกต.เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย จึงจะไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับนายเรืองไกร ในฐานความผิดตาม ม.173 ที่ระบุว่า “ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำ ต้องระวางโทษไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท” ซึ่งมีโทษทางอาญาอีกด้วย

ฝ่ายค้านรุมขวางปลด‘เสรีพิศุทธ์’

วันเดียวกันพรรคเพื่อไทย มีการประชุมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อประชาชน โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ แถลงภายหลังการประชุมว่า รู้สึกเป็นห่วงประเด็นการยื่นเรื่องถอดถอน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร โดยมีความพยายามใช้เสียงข้างมาก รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนจำนวนส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเข้ามาทำหน้าที่ในกมธ.ป.ป.ช. ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการตรวจสอบ และการปกป้องรักษาไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ควรได้ทำหน้าที่ต่อไป ที่ผ่านมาทำหน้าที่อย่างรอบคอบ ขยันขันแข็ง ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานกมธ. ขอเรียกร้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้ามาช่วยดูในประเด็นนี้ด้วย ไม่เช่นนั้น ในอนาคตหากเกิดความไม่พอใจ ก็จะมีการร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ ซึ่งจะยุ่งกันใหญ่

ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และโฆษกกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาฯ กล่าวว่า เหตุผลการปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คงมาจากความไม่พอใจที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบ นายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน และการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 โดยมิชอบ หลังจาก กมธ.ป.ป.ช. ลาออกไป ตามข้อตกลงเดิม จะต้องมีส.ส.ก้าวไกล เข้ามาทำหน้าที่ แต่ภายหลังฝ่ายรัฐบาลเปลี่ยนใจจะให้มีสัดส่วนในฝ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้น ถือเป็นการใช้เสียงข้างมากลากไป โหวตให้ชนะ เอาทุกอย่าง จะทำให้การตรวจสอบ ระบบถ่วงดุลอำนาจถูกทำลายลงไป

ชงกมธ.งบปรับโครงสร้างหนี้สู้โควิด

ขณะที่ความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2564 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการประชุมของคณะกมธ. โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้กมธ.ได้เริ่มพิจารณาภาพรวมของการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2564 โดยได้พิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมี 4 หน่วยงาน เข้ามาชี้แจงข้อมูลกับคณะกรรมาธิการ คือ 1. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2. สำนักงบประมาณ 3. กระทรวงการคลัง 4. ธนาคารแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ได้เสนอแนะการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจฐานรากชุมชน โดยการกระจาย ความเจริญไปสู่ภูมิภาคเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในช่วงการเกิดวิกฤติการระบาดของโรคโควิด 19 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้เสนอแนะ ให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ และลดดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งให้มีการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการผ่อนชาระหนี้ให้นานขึ้น หรือให้ลูกหนี้สามารถนาทรัพย์สินมาชาระหนี้แทนเงินกู้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้

ชงออกก.ม.เก็บภาษีอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ ในส่วนของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรมีกฎหมายให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ เพราะในปัจจุบันประชาชนใช้เครื่องมือสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ในการจับจ่ายใช้สอย เช่น การสั่งซื้อสินค้าหรือสั่งจองโรงแรม จากต่างประเทศ ซึ่งการใช้จ่ายนั้นไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ หรือการเก็บภาษีจากการโฆษณา ซึ่งภาครัฐ ไม่สามารถจัดเก็บภาษีการโฆษณาจากสื่อออนไลน์ หรือการโฆษณาในโซเชียลมีเดีย ได้เช่นกัน

‘บรรจงศักดิ์’ตุลาการคนใหม่

ในการประชุมวุฒิสภา มีวาระสำคัญในการให้ความเห็นชอบนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 12 วรรคแปด แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ด้วยคะแนนเสียงทั้งนี้ได้มีมติให้ความเห็นชอบ 206 ต่อ12 เสียงไม่ออกเสียง 11 เสียง

โดยผลการออกเสียงลงคะแนนปรากฏว่า นายบรรจงศักดิ์ ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา คือไม่น้อยกว่า 125 คะแนน จึงเป็นผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

สำหรับนายบรรจงศักดิ์ ได้รับการเสนอชื่อจากประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด เพื่อคัดเลือกตุลาการในศาลปกครองสูงสุดให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ที่ที่ประชุมวุฒิสภาให้ความเห็นชอบนายชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ที่สำนักงานศาลปกครองเสนอไปด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา