ข่าวผลของยารักษามาช่วย แต่ยังระวังยอดผู้เสียชีวิตที่อาจพุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์

ข่าวผลของยารักษามาช่วย แต่ยังระวังยอดผู้เสียชีวิตที่อาจพุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์

ตลาดหุ้นตอบรับข่าวผลของยารักษาโควิด

ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ Gilead ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของสหรัฐเปิดเผยว่า จากผลการทดลองพบว่า ยา Remdesivir สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ถึง 62% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน ซึ่งทำให้ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการระบาดลดลงส่งผลให้หุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัว

อัตราการเสียชีวิตในช่วงวันหยุดกลับมาลดลง ถึงแม้จำนวนผู้ป่วยรายวันของทั้งโลกและสหรัฐฯ ทรงตัวที่ระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดที่ 2 แสน และ 6 หมื่นราย แต่จำนวนผู้เสียชีวิตช่วงสุดสัปดาห์ ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3,956 และ 380 ราย (จากช่วงก่อนหน้า 5,000 และ 1,000 ราย และดีกว่าผู้เสียชีวิตสูงสุดที่เคยขึ้นไปถึง 8,000 และ 2,500 ราย เป็นอย่างมาก) อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้เสียชีวิตมักลดต่ำในช่วงวันหยุดก่อนจะกลับมาพุ่งสูงในช่วงต้นสัปดาห์ ดังนั้นอาจต้องระวังความผันผวนของตัวเลขผู้เสียชีวิตที่อาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนด้วย

เน้นหุ้นที่ผลการดำเนินงานดี/ปลอดภัย เลี่ยงหุ้นที่คาดการณ์ไม่ได้ ในช่วงประกาศงบไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ส.ค.) เราประเมินตลาดจะเริ่มกลับมาประเมินอย่างจริงจังถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิดต่อผลประกอบการ ทำให้หุ้นที่มีผลการดำเนินงานดีอย่าง กลุ่มอาหารและสินค้าเกษตร และหุ้นปลอดภัย หรือที่มีรายได้มั่นคง มีแนวโน้มที่จะได้รับการจัดสรรเม็ดเงินลงทุนมากขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในช่วงสั้นจะเสี่ยงต่อการถูกปรับลดน้ำหนักหนักการเปิดประเทศล่าช้า และอาจจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งหากงบออกมาไม่เลวร้ายอย่างที่กังวล หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ CPF, TU, STA, ADVANC, INTUCH, WHAUP, EASTW, SUPER  

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ เรายังเน้นลงทุนอย่างระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ CPALL, ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL 6) อสังหาฯ ชอบ SPALI, SC, AP // กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ควรพิจารณาแบ่งทำกำไร AJ, PTL หลังขึ้นแรง

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวแบบมีแรงทำกำไรสลับ คงมุมมอง ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง เก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF*, WHAUP*, INTUCH*

แนวรับ 1,334 จุด / แนวต้าน : 1,373-1,387 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์ยันไม่คิดทำข้อตกลงการค้าเฟส 2 กับจีน – ทรัมป์ยันไม่คิดทำข้อตกลงการค้าเฟส 2 กับจีน เหตุความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ถูกทำลายลงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

รมว.คลัง เคาะ 3 มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ SMEs – โดย (1.) ให้บสย.เตรียมวงเงินสำหรับค้ำประกันสินเชื่อจำนวน 3 หมื่นล้านบาท (2.) จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการ 5 หมื่นล้านบาท รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท (3.) ให้สศค.และธนาคารออมสินเร่งหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบอย่างเร่งด่วน

ACE เทคโอเวอร์โรงไฟฟ้าชีวมวลของ UWC จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 26.9MW เพิ่มพอร์ตไฟฟ้าเป็น 239MW โดยเริ่มรับรู้รายได้ 3Q63

CPFTHบริษัทย่อยในเครือ CPF เตรียมขายหุ้นกู้ 5 ชุด อายุ 4 ปี 6 เดือน, 7 ปี, 10 ปี, 12 ปี และ 15 ปี เสนอขาย 20 ส.ค.

AOT หลังเราแนะนำขายชอร์ตในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นลงมาถึงเป้าหมายที่ 56 ดังนั้นอาจปิดทำกำไรครึ่งหนึ่งและถือลุ้นที่เหลือไปปิดโซน 50-52 บาท (stop ที่ 57)

ประเด็นติดตาม: 14 ก.ค. – OPEC monthly report, 24 ก.ค. ครม. พิจารณามาตรการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว/ 9 ส.ค. เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)