“ก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร” ดันธุรกิจยืนบนกติกาเดียวกัน
คุณภาพและการบริการคือการแข่งขันที่แท้จริงไม่ใช่การทุ่มตลาด
ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลายอุตสาหกรรมโดนพิษสงจากไวรัสโควิดอย่างหนักหน่วง และอาจจะลากยาวไปถึงจนสิ้นปีนี้ แต่กลับมีหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในช่วง“ขาขึ้น” คือ ธุรกิจดิลิเวอรี่ และโลจิสติกส์ที่ขยายตัวอย่างมหาศาล “ไปรษณีย์ไทย” ถือเป็นรัฐวิสาหกิจที่โดนดิสรัปชั่นจากเทคโนโลยีและคู่แข่งหน้าใหม่ หากภาพรวมของผลการดำเนินงานที่ผ่านมา กลับพูดได้ว่า บริษัทขนส่งสัญชาติไทยรายนี้ เป็นหนึ่งในตัวจริงของอุตสาหกรรมนี้
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จากการทำงานใน ปณท กว่า 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เห็นว่าท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันและการให้บริการประชาชนในภาวะที่ทุกคนต้องอยู่บ้านนั้น ปณท ในฐานะหน่วยงานของรัฐสามารถสนับสนุนนโนบายของรัฐได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเกษตรกรขนส่งผลไม้ , การจัดส่งหน้ากากอนามัยให้ประชาชน ตลอดจนการส่งยาให้ผู้ป่วยเพื่อลดการมาโรงพยาบาล และการลดราคาส่งพัสดุด้วยการคิดราคา 19 บาท สำหรับพัสดุน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม จากเดิมที่คิดราคา 30 บาท เป็นต้น
อานิสงส์โควิดดันยอดส่ง
ช่วงโควิด-19 ทำให้ยอดส่งพัสดุเพิ่มขึ้น 60% โดยเฉพาะในช่วงเดือนเม.ย. 2563 มียอดการส่งผลไม้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น ทุเรียน มะม่วง เพราะไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศจีนได้ ดังนั้น ปณท จึงได้เสนอสนอโครงการตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ผ่านไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) คือ โครงการสนับสนุนค่าจัดส่งสินค้าอุปโภค บริโภค และค่าจัดส่ง จัดซื้อสินค้าจำหน่ายในแพลตฟอร์มของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) มูลค่า 4,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงการค่าส่งพัสดุ 19 บาท และช่วยเกษตรกรในการนำผลผลิตมาจำหน่ายผ่านตลาดกลางสินค้าออนไลน์ของไปรษณีย์รวมถึงช่วยเรื่องขนส่งสินค้าให้เกษตรกรด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในช่วงครึ่งปีแรกผลการดำเนินงานของปณท ยังมีกำไรอยู่ แต่เชื่อว่าผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จะเริ่มเห็นหลังจากนี้ ขณะที่ ปณท เป็นรัฐวิสาหกิจ ต้องทำงานสนับสนุนนโยบายของรัฐและช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งยังคงต้องทำงานให้มีกำไรและจ่ายโบนัสให้พนักงานให้ได้ในท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่มีคู่แข่งจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น ทำให้การทำงานของ ปณท ลำบาก ไม่สามารถลดราคาแข่งกับเอกชนแบบยอมขาดทุนหรือ ทุ่มตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ เหมือนเอกชนได้
แนะตั้งหน่วยงานกลางคุม
ดังนั้น รัฐบาลควรมีหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจนี้อย่างจริงจัง เหมือนกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีกฎหมาย กติกา ในการกำกับผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมในการแข่งขันบนสนามเดียวกัน ทำให้การแข่งขันต้องแข่งขันกันด้วยคุณภาพและการให้บริการ ไม่ใช่การทุ่มตลาด และตัดราคากันอย่างทุกวันนี้
“ตอนนี้ธุรกิจจากประเทศจีนเข้า ออก ในประเทศไทย หลายแบรนด์ บางแบรนด์ขาดทุนถึง 6,000 ล้านบาท ถามว่าทำไมเข้าถึงทำ เพราะเขาเงินหนา เขาต้องการเปิดตลาดในทุกประเทศเพื่อสร้างแบรนด์ ว่าเคยเปิดตลาดในอาเซียน ประเทศไหนมาบ้างแล้ว และเขาก็ออกไปประเทศอื่นๆ เวลาเขารายงานผลการดำเนินการไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศจีน ทำให้บริษัทมีโพรไฟล์ดี เพราะตลาดในจีนอิ่มตัวแล้ว เมื่อโพรไฟล์ดีเขาก็ขายบริษัทให้คนอื่นต่อ การเล่นเกมแบบนี้ เราควรมีการคุมให้อยู่ในกติกาเดียวกัน ไม่ใช่ให้ใครมาทุ่มตลาดก็ได้ ” นายก่อกิจ กล่าว
นายก่อกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง ปณท จะดำเนินตามภารกิจ “ดิจิทัล อีโคโนมี่ และ โซไซตี้” คือการใช้ดิจิทัลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และ บริการทางสังคม ซึ่งตนเองนั้นเข้าใจดีว่าธุรกิจต้องมีการแข่งขัน และมีแผนธุรกิจเพื่อให้รายได้และกำไรไม่ลดลงไปมากกว่านี้ มีการใช้เครื่องมือด้านดิจิทัลเป็นแต้มต่อในการทำงาน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ตัวกลางโลกออฟไลน์กับออนไลน์
ล่าสุดได้หารือร่วมกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ ดีจีเอ และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ในการดำเนินโครงการ TDH (Total Document Handling) เพื่อเป็นตัวกลางในการนำข้อมูลออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ เนื่องจากเล็งเห็นว่าประชาชนบางพื้นที่ บางกลุ่มยังไม่สามารถเข้าถึงดิจิทัล เมล์ หรือ อีเมล์ ในการรับข้อมูลข่าวสารได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอแผนเพื่อให้ดีจีเอรับทราบอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ปณท จะเน้นการทำงานเพื่อลดต้นทุน เป็นหลัก อาทิเช่น การทำโครงการพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ทดแทนการใช้ไฟฟ้า ด้วยการจับมือกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อร่างสัญญาในการหาผู้ให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์ที่เสนอราคาค่าบริการต่อเดือนถูกที่สุดมาให้บริการและใช้ภายใน ปณท , การบริหารจัดการรถขนส่งสินค้า ไม่ให้ว่าง เมื่อมีการขนส่งไปยังปลายทาง ขากลับต้องมีสินค้าขนส่งกลับมาด้วย