'กรมทางหลวง' แจงปมขยายทางหลวงหมายเลข 4 สาย อ.ตะกั่วป่า-อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

'กรมทางหลวง' แจงปมขยายทางหลวงหมายเลข 4 สาย อ.ตะกั่วป่า-อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

"กรมทางหลวง" ชี้แจงกรณีโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) สาย อ.ตะกั่วป่า–อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมเร่งปรับปรุงผิวทางให้ใกล้เคียงระดับเดิม

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.63  นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างและตำหนิการทำงานของกรมทางหลวง หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าการออกแบบถนนไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย เป็นเหตุทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในการใช้ชีวิตประจำวันนั้น กรมทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ดังนี้

พื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ใน ระหว่างการก่อสร้างโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) สาย อ.ตะกั่วป่า – อ.ท้ายเหมือง ตอน บ.บางสัก – บ.เขาหลัก จังหวัดพังงา ระหว่าง กม.776+700 – 797+062 ระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยจุดที่เป็นปัญหาอยู่ที่กม. 777+300 – 777+600 (300 เมตร) ซึ่งได้มีการยกระดับคันทางสูงกว่าระดับถนนเดิมช่วงท้องโค้ง (sag) ประมาณ 1 เมตร เนื่องจากสภาพพื้นที่ในปัจจุบันเป็นลูกเนินขนาดเล็กต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นในการปรับค่าระดับบริเวณช่วงดังกล่าว ให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้มีระยะมองเห็นที่มีความปลอดภัย กับผู้ใช้ทางโดยรวม สอดรับกับการขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อไปว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จากสำนักสำรวจและออกแบบ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที ให้พิจารณาทบทวนรูปแบบ เน้นเรื่องความปลอดภัยทางด้านวิศวกรรม และความสะดวกของประชาชน เป็นสำคัญ ควบคู่กันไป โดยได้ข้อสรุปว่า กรมทางหลวงจะปรับระดับ ช่วงกม. 777+300 – 777+600 ที่เป็นประเด็นปัญหาร้องเรียน ให้มีระดับใกล้เคียงผิวจราจรเดิม เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่ข้างเคียง โดยจะต้องเป็นไปตามหลักทางด้านวิศวกรรมความปลอดภัย และให้สำรวจตรวจสอบอย่างละเอียด และปรับปรุงแก้ไข ในทุกพื้นที่ตลอดทั้งโครงการ นอกจากนี้จะเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างในจุดเสี่ยงอันตราย เพื่อความปลอดภัยในเวลากลางคืนด้วย

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการร้องทุกข์ หรือข้อเสนอแนะ สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี 24 ชม.)