ทักษิณ-นปช.คลายมนต์? 17 จังหวัดคืนป้าย 'หมู่บ้านเสื้อแดง'

ทักษิณ-นปช.คลายมนต์? 17 จังหวัดคืนป้าย 'หมู่บ้านเสื้อแดง'

"สุภรณ์" ส่งมอบธงใหม่ "รวมไทย สร้างชาติ" สลายสีเสื้อ ปชป.เล็งยกเครื่องขนานใหญ่ ทำโพลล์ประเมินผลงาน รมต.

7 จังหวัดภาคเหนือ คืนป้าย “หมู่บ้านเสื้อแดง” รับมอบธงหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนฯ “รวมไทย สร้างชาติ” ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ อดีตแกนนำ“แรมโบ้อีสาน” ย้ำต้องสลายสีเสื้อ เลิกขัดแย้งกัน ร่วมมือรัฐบาล ปชป.ปิดห้องถกทิศทางพรรค วางกรอบ 1 เดือน ต้องเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เล็งหาวิธีทำโพลล์ประเมินผลงาน รมต.พรรค ขณะที่ “บิ๊กจิ๋ว” วัย 88 ปี วิจารณ์การเมืองไทยยังวนเวียนยุคเก่า

เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ใน 17 จังหวัด ภาคเหนือ จัดกิจกรรมเปิดตัว ณ อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติกลุ่ม GPS ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีนายอานนท์ แสนน่าน อดีตประธานเครือข่ายหมู่บ้านคนเสื้อแดงแห่งประเทศไทย และอดีตประธานหมู่บ้านคนเสื้อแดงภาคเหนือ นายสมชัย แสงทองและแกนนำภาคเหนือ 17จังหวัด เป็นตัวแทนคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง และรับมอบธงหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ซึ่งมีตัวแทนสมาชิกกลุ่มในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดมาร่วมงานกว่า 1,000 คน

โดยงานดังกล่าว มีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นประธานรับมอบคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง พร้อมทั้งมอบป้ายและธงหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ให้ตัวแทนทุกหมู่บ้าน

นายสุภรณ์ กล่าวกับผู้มาร่วมงานว่า “ต้องขอขอบคุณแกนนำ และอดีตพี่น้องคนเสื้อแดงทุกคนที่มาร่วมมือกัน เพื่อสลายสีเสื้อในครั้งนี้ เราจะไม่มีสีเสื้ออื่นๆ นอกจากสีธงชาติ ขาว น้ำเงิน แดง หมายถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันที่พวกเราคนไทยต้องช่วยปกป้องไว้ วันนี้ประเทศไทยเราต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ และรวมพลังคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เราจะต้องเลิกการทะเลาะ เลิกขัดแย้งกัน หันหน้ามาร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อมุ่งสู่การส่งเสริมอาชีพสร้างงานสร้างรายได้ ปลดหนี้ปลดสินให้กับพี่น้องเกษตรกรของเราทุกคน”

“เอาเวลาที่จะไปชุมนุมทางการเมืองบนถนน หันมาทำมาหากินดีกว่า เพื่อให้พวกเรามีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ มีกินมีใช้ ให้สุขสบายมากขึ้นกว่าเดิม และเป็นการทำให้ประเทศชาติมั่นคงประชาชนมั่งคั่งและยั่งยืนในทุกครัวเรือนในวันข้างหน้าอันใกล้นี้”

นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ประเทศชาติ ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะต้องขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปสู่ทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน เพื่อให้บ้านเมืองของเราเจริญรุ่งเรือง ภายใต้แนวทาง รวมไทย สร้างชาติ ที่นายกฯได้ให้แนวทางไว้

สำคัญที่สุด รัฐบาลมีความต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาความยากจน ที่ทุกคนได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานายกฯ และรัฐบาลได้ทุ่มเทเยียวยาดูแลพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ และจะต้องเดินหน้าดูแลต่อไปเพื่อให้ทุกคนฟื้นกลับสู่วิถีชีวิตใหม่ให้ได้

ดังนั้นการรวมตัวจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ตามศาสตร์พระราชา ถือเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนอย่างยิ่งและตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลก็พร้อมจะเข้ามาดูและให้กลุ่มได้ขับเคลื่อนเดินหน้าในอาชีพให้มีรายได้มากขึ้นต่อไป

ปชป.ปิดห้องคุยรมต.-ส.ส.

ทางด้านการสัมมนาของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) วานนี้ (11 ก.ค.) ที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ได้มีการประชุมระหว่าง ส.ส.และรัฐมนตรีของพรรคทั้ง 7 คน โดยมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงแรกก่อนที่จะให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น ได้มีการถ่ายรูปร่วมกัน และไม่อนุญาตให้บุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าสังเกตการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกของการประชุม ได้สรุปภาพรวมการทำงานในสภาฯ และการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯ 64 ที่ผ่านมา รวมถึงวิเคราะห์การเมืองภาพใหญ่ หลังวิกฤตโควิด-19 และวิเคราะห์ถึงทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นความเป็นสถาบันพรรคการเมือง จุดยืนและยุทธศาสตร์ของ ปชป. ที่จะต้องขับเคลื่อนพรรคต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จเหมือนบางพรรคที่ทำสื่อโซเชียลและประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ รวมถึงการมุ่งเน้นสร้างผลงานในการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และการลงพื้นที่ของส.ส.เพื่อสนองตอบต่อประชาชน ทั้งนี้การประชุมได้เสร็จสิ้นในเวลา 17.00 น.

เล็งทำโพลล์ประเมินงาน 7 รมต.

ต่อมานายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เปิดเผยว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดีถือว่าเป็นการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา โดยที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นว่าเวลานี้เราต้องยอมรับความจริงว่า ปชป.ไม่ได้อยู่ในสถานะที่มีความนิยมอย่างมากเหมือนในอดีต ทำให้เราต้องมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะเกี่ยวพันไปถึงเรื่องอื่นๆ ทั้งการต้องทำตามนโยบายที่พรรคได้ประกาศต่อประชาชน และการบริหารจัดการภายในพรรครวมถึงเรื่องอื่นๆ และสิ่งที่ดีมากในการพูดคุยวันนี้ คือทุกคนยอมรับว่าต้องมีการประเมินการทำงานของรัฐมนตรีของพรรคทุกคน ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค รับเรื่องและจะไปกำหนดหาวิธีในการทำโพลล์ประเมินผลงานดังกล่าว

“ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะเราถือว่าส.ส.เป็นคนเลือกคนไปเป็นรัฐมนตรี แต่ส.ส.ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ดังนั้นการที่จะให้ส.ส.เป็นผู้ประเมินผลงานของรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องที่ส.ส.ทำในนามตัวแทนของประชาชน”

ทั้งนี้นายสาทิตย์ ระบุว่า มีการกำหนดไว้ว่าเรื่องที่พูดคุยกันจะต้องเห็นผลการเปลี่ยนแปลงภายใน 1 เดือน นับจากนี้ ซึ่งผลการประชุมในวันนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกว่าตรงกับสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องแม้จะยังไม่ 100% ก็ตามซึ่งในส่วนของตนพอใจการตอบรับของผู้บริหาร 70% มากกว่าที่คาดหวังไว้ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ลงมือทำและตนเชื่อว่าหลังจากนี้จะเกิดการลงมือทำเพื่อให้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในหลายๆ เรื่อง ถือว่าการสัมมนาครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดี

คาดปัญหาไม่จบ-กก.บห.โวย

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวด้วยว่า การสัมมนาครั้งนี้ เพื่อหล่อหลอมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ไม่มีการเชิญกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ไปร่วมด้วย ทำให้ กก.บห.บางส่วนไม่สบายใจ โดยแหล่งข่าว ระบุว่า หากคิดจะเคลียร์ใจเฉพาะคนที่มีตำแหน่ง ส.ส. หรือรัฐมนตรีเท่านั้น การสัมมนาครั้งนี้ปัญหารอยร้าวในพรรคก็ยังไม่จบ และไม่เกิดประโยชน์ เพราะสะท้อนว่าผู้บริหารของพรรคยังเลือกเฉพาะพรรคพวกตัวเอง

แม้แต่นายทะเบียนพรรคก็ไม่ได้รับเชิญไป ทั้งที่เป็นตำแหน่งสำคัญต้องดูแลระบบทั้งหมดของพรรค เหมือนกับครั้งก่อนตอนที่เลือกตั้งเสร็จ ก็มีการจัดสัมมนาที่หัวหิน ก็ให้ไปเฉพาะ ส.ส.ไม่เชิญ กก.บห. จึงอยากถามว่าเห็น กก.บห.พรรคเป็นอะไร มีความสำคัญหรือไม่

“บอกได้เลยว่างานนี้ไม่จบ และเคลียร์ปัญหาไม่ได้หรอก ลองคิดดู ขนาดผู้บริหารพรรคได้สอบถามนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี รองเลขาธิการพรรค กลางวงสัมมนาว่าจบหรือไม่ ปรากฏว่านายอันวาร์ ตอบแบบไม่ต้องคิดว่า ไม่จบ เพราะถือว่าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกจุด เพราะถ้าพรรคไม่ไว้ใจกก.บห.ให้เข้าไปร่วมรับรู้ปัญหาพร้อมๆกัน แล้วจะมี กก.บห.ไว้ทำอะไร การสัมมนาครั้งนี้ที่เลือกไปเกาะเสม็ด ถ้าภาษาภาคใต้เขาเรียกว่า เกาะแหม็ด แปลว่า หมดแล้ว ไม่มีเหลือ ก็ไม่รู้ว่าเลือกตั้งครั้งหน้าส.ส.ปชป.จะเหลือหรือไม่”แหล่งข่าวระบุ

ขอให้จับตาการประชุมใหญ่ ในวันที่ 19 ก.ค.จะต้องมีการเคลียร์ปมปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเหล่านี้แน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของผู้บริหารพรรค หรือรัฐมนตรีของพรรคที่ไม่ดูแล ส.ส.ที่สอบตก แต่กลับดูแลพวกที่มีตำแหน่งมากกว่า

 “บิ๊กจิ๋ว” 88 ปีพบสื่อวิจารณ์รัฐบาล

วันเดียวกันนี้ ที่​โรงแรมมิราเคิล​ แกรนด์​ กทม. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ในวัย 88 ปี ที่สุขภาพยังแข็งแรง ได้นัดพบปะสื่อมวลชน พร้อมทั้งวิพากษ์สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นกระแสขณะนี้ว่า การปรับ ครม.เพราะมาจากการเมือง ซึ่งเรื่องการปรับ ครม.เป็นอย่างนี้มานานแล้ว

รัฐบาลทุกรัฐบาล และวันนี้พูดแต่เรื่องการเมือง ใครจะเป็หัวหน้าพรรค ห่วงเรื่องเลือกตั้ง ห่วงเรื่องรัฐธรรมนูญแก้อย่างไร การปกครองทุกรูปแบบ ไม่ว่าเป็นแบบใด ก็ไม่มีใครพูดเรื่องแบบนี้เหมือนที่เรากำลังพูด สิ่งเดียวที่เขาพูดคือ ​จะทำอะไรเพื่อประชาชนได้บ้าง นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดถ้าจะถามว่า สถานการณ์การเมืองเป็นอย่างไร ตอบเลยว่า เหมือนเดิมเมื่อ 88 ปีที่แล้ว ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง