‘Coffee in a Cone’ จิบโดนใจให้โลกอิจฉา

‘Coffee in a Cone’ จิบโดนใจให้โลกอิจฉา

“Coffee in a Cone” กาแฟนมเข้มๆ กับช็อคโกแลตหอมๆ เสิร์ฟร้อนในถ้วยโคนไอศครีม สีสันของการดื่มด่ำรสกาแฟที่นอกจากอร่อยโดนใจแล้ว ยังถือว่าช่วยลดขยะมลพิษไปในตัว

โลกของกาแฟนั้นเป็นได้ชื่อว่าโลกแห่งความท้าทาย มีการคิดค้นเมนูใหม่ๆ มาให้ลองลิ้มชิมรสกันอยู่เสมอมิได้ขาด ทำให้การดื่มกาแฟเต็มไปด้วยรสชาติอันหลากหลายและเปี่ยมมนต์เสน่ห์อย่างต่อเนื่อง ในสัปดาห์นี้ขออาสาพาท่านผู้อ่านไปจิบกาแฟแนวสีสันตัวหนึ่งที่เคยเป็นกระแสไวรัลโด่งดังสุดๆ มาแล้วในโลกโซเชียล เมื่อ 2-3 ปีก่อน

เดิมนั้นมี ‘ไอศครีมโคนแต่สมัยนี้มี กาแฟโคนเข้ามาเพิ่ม ขยายรายละเอียดอีกนิดให้ชัดเจนขึ้น ก็คือ กาแฟลาเต้ในถ้วยโคนไอศครีม ที่เรียกกันในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษว่า ‘Coffee in a Cone’ หรือ ‘Latte Cone Coffee’ ถือเป็นนวัตกรรมสายกาแฟที่ค่อนข้างแปลกตาทีเดียว เปิดตัวครั้งแรกมาตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2017

ช่วงนั้นจัดว่าฮิตมากในสื่อสังคมออนไลน์ระดับบิ๊กอย่างอินสตาแกรม มีคนโพสต์ภาพชิมกาแฟโคนที่มีฟองนมรูปหัวใจอยู่ด้านบน อวดชาวโลกโซเชียลให้อิจฉาจนอยากไปลองชิมดูบ้าง พร้อมติดแฮชแท็ก #coffeeinacone กันเป็นล้านแฮชแท็ก

ปรากฎการณ์ไวรัลของ ‘กาแฟโคน’ โด่งดังไม่แพ้ กาแฟวิปครีมที่กลายมาเป็นกระแสฟีเวอร์ในช่วงการเก็บตัวอยู่บ้านระหว่างการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทว่าหลังจากผ่านมาแล้ว 2 ปี ความฮิตความปังเริ่มแผ่วลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่กระแสโลกออนไลน์มักมาเร็ว ไปไว เกิดขึ้นและสลายในเวลาอันสั้น

แต่กาแฟโคนแพร่ขยายจากแอฟริกาใต้ไปสู่ประเทศต่างๆ พร้อมกับสูตรที่หลากหลายมากกว่าเดิม ไม่ได้มีเฉพาะกาแฟลาเต้ ที่ใช้เอสเพรสโซ เติมนมร้อนและฟองนม กับวาฟเฟิลเคลือบช็อคโกแลตเท่านั้น ตัววาฟเฟิลโคนเองก็เพิ่มมิติด้านรูปทรง มีทั้งกรวยก้นแหลมและก้นแบน

159439172227

ลาเต้อาร์ตรูปหัวใจ เป็นพิมพ์นิยมของกาแฟโคน ภาพ facebook.com/thegrindza

ผู้สร้างสรรค์และคิดค้นกาแฟโคนเป็นคนแรก ก็คือ เดย์น เลวินแรด บาริสต้าไอเดียเลิศของบริษัทกาแฟชื่อ กรินด์ ค๊อฟฟี่ คอมพานี (Grind Coffee Company) ในโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ผู้ก้าวขึ้นมาเป็น ผู้ประกอบการบนถนนสายธุรกิจกาแฟแบบเต็มตัว หลังจากใช้เวลาหลายปีทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านกาแฟในบราซิล ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

บอกตามตรงเลยครับว่า ถ้าใครชอบกาแฟเติมนมเข้มๆ กับช็อคโกแลตหอมๆ ก็น่าจะเหมาะ เคยลองชิมกันหรือยังครับ แปลกและไม่ซ้ำแบบใคร

เพราะ...เมื่อกาแฟเอสเพรสโซและนมร้อนถูกเทลงในวาฟเฟิลโคนที่เคลือบด้วยช็อคโกแลตแข็ง ทำให้ช็อกโกแลตเริ่มละลายออกมาผสมกับกาแฟ ก่อเกิดกลิ่นและรสชาติหอมหวานมันแบบครีมๆ ชุ่มฉ่ำอยู่ในปาก เมื่อแรกจิบนั้น สัมผัสได้ถึงช็อคโกแลตหวานอ่อนๆ ส่วนรสชาติกาแฟเข้มข้นเติมนมยังมาแบบจัดเต็ม แต่กลิ่นรสช็อคโกแลตจะแรงขึ้นทุกขณะที่จิบ

จนสุดท้าย จบด้วยวาฟเฟิลโคนกรุบกรอบแบบบิสกิต พร้อมช็อคโกแลตละลายที่อยู่ตรงก้นโคน...แต่ละจิบจึงโดนใจ เหมือนอยากให้โลกทั้งใบอิจฉา

รูปแบบนั้นคล้ายกับที่เราเคยกินไอศครีมโคนรสกาแฟเคลือบช็อคโกแลต ทว่ากาแฟโคนนั้นใช้เอสเพรสโซ่เติมนมร้อนๆ ไม่ใช่ไอศกรีมเย็นๆ ส่วนรสชาติและกลิ่นนั้นน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับท่านที่ชอบดื่มกาแฟ ‘มอคค่า’ (Mocha) เพราะมีกลิ่นรสช็อคโกแลตเข้ามาเสริม ขณะที่วิธีการทำคือ กาแฟ ลาเต้อาร์ตนั่นเอง

สูตรเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่เปลี่ยนภาชนะจากแก้วมาเป็นวาฟเฟิลโคนเคลือบช็อคโกแลต

159439172152

วาฟเฟิลโคนเคลือบช็อคโกแลต สูตรของแบรนด์ Coffee in a Cone ภาพ : instagram.com/daynelevinrad

สำหรับมอคค่า เป็นเครื่องดื่มอีกประเภทที่มีส่วนผสมของกาแฟเอสเพรสโซ่กับช็อคโกแลต นิยมใส่น้ำเชื่อมช็อคโกแลตลงในกาแฟเอสเพรสโซ เพื่อเพิ่มความหอมและความหวานเข้าไป บางสูตรมีวิปครีมปิดหน้าด้วย เหมาะกับสาวๆ หรือผู้ที่ชื่นชอบดื่มกาแฟอ่อนๆ

แน่นอนว่า ‘โคนหรือ กรวยวาฟเฟิลนี้ ต้องเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นมาเป็นพิเศษ แต่กว่าจะได้วาฟเฟิลที่ลงตัวก็เล่นเอาเหนื่อย ต้องทดลองกันหลายครั้ง เพื่อให้ได้วาฟเฟิลโคนที่กรอบเหนียว ทั้งยังต้องใช้ช็อกโกแลตเคลือบผิวด้านในโคน 4 ชั้นด้วยกัน

สองสามปีก่อน ใครซื้อกาแฟโคนมาแล้ว คุณมีเวลาเพียง 10 นาที เพื่อดื่มกาแฟร้อนให้หมดโคน ก่อนที่ผิวช็อคโกแลตเคลือบจะละลาย แต่บัดนี้! มีการพัฒนาและปรับปรุงวิธีการทำวาฟเฟิลโคนแบบใหม่ ให้ทนความร้อนได้นานขึ้นถึงกว่า 30 นาที

ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้กับทุกอาชีพ ไม่ว่าจะสายงานไหนก็ล้วนต้องสร้างแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อน...

เดย์น เลวินแรด เล่าให้ฟังตอนหนึ่งว่า หลังกลับจากการทำงานในต่างประเทศมาอยู่ที่โจฮันเนสเบิร์ก คิดอยากจะทำกาแฟรูปแบบใหม่ที่ต่างออกไปจากเดิม เนื่องจากที่โจฮันเนสเบิร์ก มีการแข่งขันกันสูงมากในธุรกิจกาแฟ ตอนนั้นกาแฟพิเศษหรือคลื่นกาแฟลูกที่สามยังเดินทางมาไม่ถึงแอฟริกาแบบเต็มร้อย แต่จากงานวิจัยที่เคยทำในออสเตรเลีย ทำให้รู้ว่า ถนนสายกาแฟนั้นกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน

เลวินแรด ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้บริหารสายการตลาดออนไลน์ รู้ดีว่า มีคนชอบไอศครีม ชอบกาแฟ และรักช็อคโกแลต เลยตัดสินใจนำทั้ง 3 สิ่งมาหลอมหลวมเป็นเมนูหนึ่งเดียว เสิร์ฟกาแฟลาเต้ในโคนไอศกรีม แต่เนื่องจากโคนมีข้อกำจัดด้านพื้นที่ คือ ใส่น้ำกาแฟได้ไม่มากนัก ทำให้เขานึกถึงสูตรกาแฟลาเต้เข้มข้นที่เสิร์ฟในแก้วจิ๋วที่เรียกว่า ‘Piccolo Latte

ได้ไอเดียแล้ว ก็เริ่มทดลองทำกันเลย อุปสรรคแรกที่พบก็คือ วาฟเฟิลโคนเคลือบช็อคโกแลตสูตรเดิมๆ ไม่สามารถทนรับน้ำกาแฟร้อนได้ เมื่อโดนความร้อนเข้า ช็อคโกแลตเคลือบก็ละลายทันที น้ำกาแฟร้อนทะลวงเข้าไปเนื้อวาฟเฟิลจนทะลุออกมานอกโคน สรุปว่าวาฟเฟิลที่ใช้กับไอศกรีมนั้นบางเกินไป ขืนเอาไปเสิร์ฟให้ลูกค้า มีหวังโดนดราม่าแน่นอน

159439172035

กระแสไวรัลทำให้ "เดย์น เลวินแรด" โด่งดังในชั่วข้ามคืน ภาพ : instagram.com/daynelevinrad

บาริสต้ารายนี้จึงตัดสินใจทางธุรกิจครั้งใหญ่...ไปซื้อเครื่องจักรมาเพื่อผลิตวาฟเฟิลโคนแบบพิเศษ ใช้ผงโกโก้หลายชนิดผสมเข้าด้วยกัน ทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าจนในที่สุดก็ลงตัว ได้สูตรใหม่ที่เพิ่มความหนาและความกรอบให้วาฟเฟิลและช็อคโกแลตที่เคลือบผิวอยู่ สามารถเก็บกักน้ำกาแฟได้นานขึ้น ในช่วงแรกๆ โคนแบบพิเศษที่ทำขึ้นเอง มีความทนทานต่อน้ำกาแฟร้อนได้ประมาณ 10 นาที

...นั่นหมายความว่า ลูกค้าดื่มดื่มน้ำกาแฟให้หมดภายในเวลาดังกล่าว ไม่เช่นนั้นอาจมีการรั่วไหล

ในที่สุด กาแฟโคน หรือ ‘Coffee In a Cone’ ภายใต้สโลแกนเท่ๆ ‘Drink Before You Eat’ หรือดื่มก่อนค่อยกิน อะไรประมาณนั้น ก็เปิดตัวออกสู่ท้องตลาดผ่านทางร้านกรินด์ ค๊อฟฟี่ คอมพานี ในโจฮันเนสเบิร์ก

แม้เป็นของแปลกไอเดียดี เป็นกาแฟที่แตกต่างออกไป แต่จะให้ติดปากติดตาเป็นที่รู้จักกันโดยเร็วนั้น ก็ต้องมีตัวช่วย อย่ากระนั้นเลย เลวินแรดผู้เข้าใจในข้อดีของโซเชียลมีเดีย ว่าเป็นเครื่องมือขายของออนไลน์ที่ทรงอานุภาพ มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและในวงกว้าง จึงสร้างแฮชแท็ก #coffeeinacone ขึ้นบนอินสตาแกรม หนึ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

หวังให้กาแฟโคน...เป็นสินค้าอีกตัวที่แจ้งเกิดบนโลกของอินสตาแกรม ด้วยรู้ดีว่า เมื่อลูกค้ามาที่ร้านเพื่อซื้อกาแฟโคน ชอบที่จะเซลฟี่ภาพพร้อมติดแฮชแท็ก แบ่งปันให้เพื่อนและชาวโลกได้ชื่มชมกัน จนมีการเคลมกันว่า นี่คือเมนูกาแฟที่มีการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมมากที่สุดในโลก

159439172276

Coffee in a Cone โฆษณาว่าเป็นกาแฟที่มีการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมมากที่สุดในโลก

นอกจากนั้น เลวินแรดยังจ้างคนมารับออร์เดอร์ลูกค้าผ่านทาง วอตส์แอพพ์ (WhatsApp) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นรับส่งข้อความฟรีสำหรับสมาร์ทโฟน ซึ่งกลยุทธ์การสร้างกระแสบนออนไลน์นี้ เกิดดันไปเข้าตา อาวีฟ วีล ผู้บริหารศูนย์แนะนำการใช้เฟซบุ๊กในรูปแบบร้านค้าประจำทวีปแอฟริกาขึ้นมา จึงเสนอความช่วยเหลือไปให้ในด้านการตลาดและการโฆษณาผ่านทางแพล็ตฟอร์มต่างๆ ทั้ง เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, วอตส์แอพพ์ และแมสเซนเจอร์

ปัจจุบัน ‘Coffee in a Cone’ มีเครือข่ายอยู่หลายประเทศ นอกจากแอฟริกาใต้แล้ว ก็มีในฮ่องกง สหรัฐ แคนาดา เยอรมนี ออสเตรเลีย คูเวต และออสเตรีย ทั้งมีการเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาขายแฟรนไชส์กาแฟ โดยโฆษณาว่าใช้วาฟเฟิลโคนพิเศษที่ทำขึ้นจากมือ เพื่อใส่กาแฟลาเต้โดยเฉพาะ

แต่กาแฟโคนจากแอฟริกาใต้อาจจะไม่ใช่ของใหม่ที่เกิดเป็นครั้งแรก เพราะตามข่าวในหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทมส์ ฉบับเมื่อค.ศ. 2014 ระบุว่า ร้านกาแฟอัลเฟรด ค๊อฟฟี่ แอนด์ คิชเช่น ในลอสแองเจลิส เสิร์ฟกาแฟโคนเช่นกัน แต่วาฟเฟิลโคนนั้นเคลือบผิวด้วยช็อคโกแลตนม ทางร้านตั้งชื่อกาแฟตัวนี้ว่า อัลเฟรด โคน (Alfred Cone) เมื่อดูจากคริสต์ศักราชแล้ว เห็นว่าเก่ากว่าของเลวินแรด 3 ปีด้วยกัน

อีกมุมหนึ่งของโลก.. ที่โตเกียว มีร้านกาแฟเล็กๆ แต่น่ารักแห่งหนึ่ง กาแฟโคนของที่นี่กลายเป็น ‘เอกลักษณ์ประจำร้าน เป็นคาเฟ่อีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศแวะเวียนไปเสมอ ร้านมีชื่อว่า ‘Coffee Cone Cafe’ อยู่ในย่านโคเอ็นจิ เสิร์ฟกาแฟโคนหลากรสชาติ มีทั้งลาเต้อาร์ตทำเป็นรูปหน้าคนยิ้ม หรือกาแฟโคนเติมวิปครีมหนานุ่มด้านบน หากใครไม่ดื่มกาแฟ ก็มีชาเขียวให้เลือก ส่วนวาฟเฟิลโคนก็มีให้เลือกทั้งแบบเคลือบช็อคโกแลต และแบบที่โรยเกล็ดน้ำตาลสีรุ้งรอบปากโคน ช่างดูเก๋เก๋สมสไตล์ญี่ปุ่นจริงๆ

159439172114

กาแฟโคนและชาเขียวโคนจากร้าน Coffee Cone Cafe ในโตเกียว ภาพ :  instagram.com/coffeeconetokyo/

ในบ้านเราเอง ก็เห็นมีการเปิดขายกาแฟโคนเหมือนกัน ภายใต้ชื่อร้าน ‘Coffee Cone Thailand’ เป็นร้านในรูปแบบบูธคาเฟ่ มีสาขาอยู่แถวสยามสแควร์และย่านอโศก ในกรุงเทพมหานคร แต่ตอนหลังเห็นข่าวคราวเงียบหายไป เลยไม่แน่ใจว่า ยังเปิดบริการอยู่อีกหรือไม่

กาแฟโคน...นับเป็นกาแฟแนวเอ็นเตอร์เทนที่น่าสนใจยิ่ง รูปทรงดูดีมีเสน่ห์ดึงดูดใจเหลือเกิน อาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของร้านกาแฟบ้านเราที่ต้องการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เพื่อเรียกลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น ในช่วงที่สถานการณ์ทางธุรกิจยังไม่เข้าที่เข้าทางจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เหมาะมากสำหรับคอกาแฟที่แวะผ่านเข้ามาซื้อกาแฟร้อนแล้วหิวแก้วติดไม้ติดมือออกไปแบบ Take away อาจเลือกกาแฟใช้วาฟเฟิลโคนแทนแก้วพลาสติกก็ได้

นอกจากอร่อยแบบโดนใจแล้ว ยังถือว่าช่วยลดขยะมลพิษไปในตัว...ได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ