'พาณิชย์'เล็งคุมราคาเนื้อหมู

กรมการค้าภายในเล็งงัดมาตรการคุมส่งออก-ธงฟ้า คุมราคาหมูหลังหน้าฟาร์มพุ่ง75-80 บาท หลังโควิด-19 คลี่คลายปลดล็อคธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร ส่งให้ความต้องการหมูสูง
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยมรองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายวิชัย โภชนกิจอธิบดีกรมการค้าภายในได้หารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติในการดูแลสถานการณ์ราคาหมูโดยเฉพาะหมูหน้าฟาร์มไม่ให้เกิน 80 บาทต่อกก. จากปัจจุบันอยู่ระดับ75-80 บาทต่อกก. เพื่อไม่ให้ราคาหมูเนื้อแดงราคาเกิน 150-160 บาทต่อกก. ซึ่งหากราคาเฉลี่ยหมูหน้าฟาร์มทั่วประเทศเกิน 80 บาทต่อกก.ทางกรมการค้าภายในก็จะมีมาตรการเข้ามาควบคุม เช่น จำกัดปริมาณส่งออกหมูไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และการนำเนื้อหมูธงฟ้ามาจำหน่ายในกับประชาชนเป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนมากนัก
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับตัวสูงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการผ่อนคลายให้ธุรกิจต่างๆสามารถเปิดดำเนินการได้มากขึ้นหลังจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศคลี่คลายในทิศทางที่ดีส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างค้าปลีก และโรงแรมต่างสั่งซื้อเนื้อหมูมาสำรองสต็อกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภค ประกอบกับเป็นช่วงที่โรงเรียนเพิ่งเปิดเทอมทำให้ความต้องการเนื้อหมูมากจากก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นระยะสั้นๆและไม่นานราคาหมูก็จะกลับมาอยู่ในระดับปกติ
“หากราคาปรับขึ้นในระยะสั้นๆจากความต้องการที่สูงก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดเพราะตรงนี้ก็จะช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีรายได้เพิ่มขึ้นจากในอนาคตเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากราคาที่ตกต่ำ แต่หากค่าเฉลี่ยราคาหน้าฟาร์มยืนอยู่เกินระดับ 80บาทต่อกก.ก็คงต้องมีมาตรการที่ทางกรมการค้าภายในได้เตรียมไว้หมดแล้วมารักษาความสมดุลทั้งในส่วนของผู้บริโภคและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูไม่เดือดร้อน อย่างไรก็ตามในการดูแลราคาเรื่องของหมูนั้นก็เน้นความสำคัญให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศก่อน“
นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ปัจจัยที่ทำให้ราคาหมูในไทยและทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และจีน ประสบปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาด ขณะที่ในประเทศไทยผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐเอกชน และเกษตรกร ได้ร่วมมือกันจนสามารถป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาดได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของการปรับราคาของหมูก็จะคล้ายกับกรณีของไข่ไก่ที่บางช่วงราคาปรับเพิ่มมากอย่างมากจนภาครัฐต้องออกมาตรการการห้ามส่งออกชั่วคราวและกำหนดราคาหน้าฟาร์มและป้องกันพ่อค้าแม่ค้าเก็งกำไร จนสถานการณ์ราคาไข่ไก่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการส่งออกหมูเป็น ก่อนหน้านี้ไทยเคยส่งออกสูงถึงปีละ3ล้านตัว และปีที่แล้วส่งออก4-5แสนตัว แต่มาปีนี้หากส่งออกเฉลี่ยวันละ 6,000-8,000ตัว เดือนหนึ่งจะส่งออก1.8-2.4แสนตัว ทั้งปี2.16-2.88ล้านตัว ซึ่งสามารถทำได้ และไม่กระทบต่อการบริโภคในประเทศ โดยแต่ละปีไทยสามารถผลิตหมูเป็นได้ประมาณ22ล้านตัว ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการบริโภคเนื้อหมูอย่างมาก ทำให้ช่วงที่ผ่านมาราคาหมูหน้าฟาร์มในไทยปรับไปอยู่ในระดับ150 บาทต่อกก., เวียดนาม110บาท กัมพูชา88-90บาทต่อไป ซึ่งเอื้อต่อการส่งออกไปขาย
ก่อนหน้านี้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ ฮ่องกง รายงานว่า จากที่ฮ่องกงประสบปัญหาการขาดแคลนเนื้อหมู เนื่องจากการตรวจพบโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรในจีน และจีนระงับการขนส่งสุกรมีชีวิตนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 62 ทำให้งฮ่องกงแก้ปัญหา โดยหาแหล่งนำเข้าสินค้าจากประเทศในอาเซียนมาทดแทน โดยเฉพาะประเทศไทยที่พบว่าในปี 62 มีการนำเข้าเนื้อหมูจากไทยเพิ่มขึ้นในระดับ 2,000%เมื่อเทียบกับปี 61 เพราะไทยสามารถป้องกันโรคระบาดได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ
'คนละครึ่ง' ลงทะเบียน 20 ม.ค.นี้ ใครไม่มีสิทธิ์รับเงิน 3,500 บาทบ้าง?
‘เราชนะ’ วันนี้ลุ้น! ครม. อนุมัติหลักเกณฑ์จ่าย 'เงินเยียวยา' 31 ล้านคน
'ทรัมป์' ร่วง รีพับลิกันล่ม ประชาธิปไตยรุ่ง
'คนละครึ่งเฟส 2' รอบเก็บตก เคยถูกตัดสิทธิ 14 วัน ลงได้อีกหรือไม่?
"Weekly Oil" report 18 January 2021
‘หลักธรรมาภิบาล’ ขององค์กรไม่แสวงหากำไร